เวทมนตร์ของหมีน้อยแพดดิงตันได้เกาะกุมหัวใจของผู้ชมทั่วโลก และหลังจากความสำเร็จยิ่งใหญ่ในรูปแบบภาพยนตร์มาสองครั้ง แพดดิงตันก็กำลังจะกลับมาสู่การผจญภัยครั้งใหม่ใน Paddington in Peru ที่หลายคนเฝ้ารอคอย ในวันที่ 6 มีนาคม 2025 ในโรงภาพยนตร์
ในภาคที่สามของ Paddington เล่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ความน่ารัก และความตลกขบขันพร้อมสร้างความสุขให้กับผู้ชมทั่วโลกอีกครั้งกับการผจญภัยของหมีแพดดิงตันในป่าอะเมซอนเมื่อหมีแพดดิงตันผู้น่ารัก ผู้หลงใหลในแยมส้มค้นพบว่า ป้าลูซี่ที่รักของเขาได้เขาหายตัวไปจากบ้านพักคนชรา เขาและครอบครัวบราวน์จึงออกเดินทางไปยังป่าลึกในเปรู เพื่อตามหาป้าลูซี่ โดยมีเพียงเบาะแสเดียวเท่านั้น นั่นก็คือแผนที่ลึกลับ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไขปริศนา แพดดิงตันและครอบครัวบราวน์จึงได้ออกเดินทางและเริ่มการผจญภัยสุดระทึกผ่านป่าลึกอะเมซอนเพื่อตามหาป้าลูซี่และขุมสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในโลก
สำหรับฮิวจ์ บอนเนอวิลล์ ผู้กลับมารับบทคุณบราวน์อีกครั้ง เขารู้สึกถูกใจบทภาพยนตร์เรื่องนี้ในทันที “ผมดีใจที่พออ่านหน้าแรก ผมก็หัวเราะก๊ากเลย ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณที่ดีเสมอมา” เขากล่าว ปฏิกิริยาแรกนี้เป็นตัวที่กำหนดโทนสำหรับโปรเจ็กต์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความอบอุ่นหัวใจ “ธีมทั้งหมดของตัวละครของไมเคิล บอนด์และเรื่องราวของเขาคือนี่เป็นหมีน้อยที่อยู่ผิดที่ผิดทาง ในสภาพแวดล้อมที่แปลกต่าง ดังนั้น ก็เลยเป็นเรื่องเยี่ยมที่จะได้นำหมีที่ไปอยู่ผิดที่ผิดทาง มาอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมของเขา และทำให้ครอบครัวบราวน์อยู่ผิดที่ผิดทางบ้าง” การหักมุมนี้จะนำเสนอมุมมองใหม่ที่มีต่อการเดินทางของแพดดิงตัน
ผู้ที่กลับมาสู่แฟรนไชส์ภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งเพื่อพากย์เสียงแพดดิงตันที่ทุกคนจดจำได้คือเบน วิชอว์ เบนกล่าวเสริมว่า “หลังจากความสำเร็จของสองภาคแรก คุณก็อดไม่ได้ที่จะกังวลใจว่าหนังภาคถัดไปจะเกี่ยวข้องกับอะไร นอกจากนั้น มันยังมีความรู้สึกกดดันที่จะต้องไม่ทำซ้ำของเดิมด้วย แต่ผมคิดว่าคอนเซ็ปต์ของเรื่องนี้ยอดเยี่ยม เพราะมันเป็นการผจญภัยมากกว่าภาคอื่นๆ แพดดิงตันอยู่ในตำแหน่งที่เจอกับความเสี่ยงและอันตรายมากกว่าเดิม ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ ตลกมากๆ และน่าประทับใจมากๆ ด้วยเหมือนกัน ผมก็เลยตื่นเต้นมากๆ”
ในตอนที่แพดดิงตันและครอบครัวบราวน์เริ่มต้นออกเดินทางครั้งใหม่ ผู้ชมก็จะได้พบกับประสบการณ์ที่ขยายขอบเขตโลกของหมีตัวนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังรักษาคุณภาพที่ทำให้แพดดิงตันกลายเป็นตัวละครอมตะเอาไว้ ภาคที่สามนี้มีจุดประสงค์ในการเป็นการเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยความสุขของครอบครัว การมีที่ทางของตัวเองและพลังของความเมตตา ซึ่งเป็นการหลบหนีที่แสนสมบูรณ์แบบเข้าสู่โลกที่หมีตัวเล็กๆ สามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้ โดยเฉพาะด้วยพรสวรรค์ในการมองโลกในแง่ดีอย่างไร้ขีดจำกัดของเขา
แมดเดอลิน แฮร์ริสและซามวล จอสลิน ผู้รับบทจูดี้และโจนาธาน บราวน์ ก็เล่าถึงความคิดเห็นที่พวกเขามีต่อการกลับมาสู่จักรวาลแพดดิงตันในบทเด็กๆ ตระกูลบราวน์ด้วยเช่นกัน แมดเดอลินพูดถึงประสบการณ์นี้ว่าเป็นเหมือนการได้กลับบ้าน “สำหรับฉัน มันเป็นการกลับมาสู่โลกของแพดดิงตัน และครอบครัวบราวน์ มันเป็นความรู้สึกของการได้กลับบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่วิเศษสุดจริงๆ” แซมที่ตอนนี้อายุ 21 ปีแล้ว เล่าถึงการเติบโตของตัวละครของเขาและพัฒนาการของตัวเขาเองในฐานะนักแสดงว่า “เป็นเรื่องน่าสนใจที่ได้อยู่ในกองถ่ายและเห็นสิ่งต่างๆ ในมุมมองใหม่ เพราะตอนเป็นเด็ก คุณมีส่วนเกี่ยวข้องก็จริง แต่คุณก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเท่าไหร่หรอกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกแล้วว่า คุณจะเข้าถึงกระบวนการของตัวคุณเองได้มากขึ้น ในลักษณะของการที่คุณอยากจะแสดงฉากนั้นๆ ยังไง และคุณก็จะรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมมากขึ้นด้วย”
ในการผจญภัยครั้งใหม่ของแพดดิงตัน แอนโทนิโอ แบนเดอรัสได้ร่วมทีมนักแสดงในบทฮันเตอร์ คาบ็อท กัปตันเรือล่องแม่น้ำอเมซอนรูปหล่อเจ้าเสน่ห์ ผู้ที่ครอบครัวบราวน์ได้พบระหว่างที่พวกเขามองหาพาหนะที่เหมาะต่อการผจญภัยเพื่อตามหาป้าลูซี่ของพวกเขา ผู้อำนวยการสร้างโรซี่ อลิสัน รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เขามาเข้าร่วมในโลกของแพดดิงตันด้วย “เขารับบทเป็นกัปตันเรือล่องแม่น้ำที่มีเสน่ห์มากๆ มีความเป็นอันธพาลนิดๆ มันเป็นบทที่แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ของแอนโทนิโอได้เป็นอย่างดีเพราะฮันเตอร์มีความคล่องแคล่ว ตลก มีเสน่ห์ พลิ้วไหว น่าขบขันแต่หลายๆ ครั้งก็เศร้าสร้อยด้วย”
ฮิวจ์ บอนเนอวิลล์ก็ชื่นชมคติและพลังงานในการทำงานของแอนโทนิโอด้วยเช่นกัน “แอนโทนิโอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการทำงาน เขามาจากแบ็คกราวน์ละครเวที ดังนั้น ทีมเวิร์คก็เลยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา เขามีช่วงเวลาในการทำงานที่ยาวนานมากๆ แต่พลังงานของเขาน่าอัศจรรย์มาก เขาเป็นหัวหน้าทีมที่ยอดเยี่ยมระหว่างที่เขาอยู่กับเรา”
การแสดงบทฮันเตอร์ คาบ็อทของแอนโทนิโอก็มาพร้อมกับความท้าทายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะด้วยความที่ไม่เพียงแต่เขาต้องรับบทฮันเตอร์เท่านั้น แต่เขายังต้องรับบทเป็นบรรพบุรุษอีกห้าคนของฮันเตอร์ด้วย “ผมรับบทเป็นบรรพบุรุษของตัวเอง ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญต่อการทำความเข้าใจกับตัวละครฮันเตอร์” แอนโทนิโอกล่าว “ในแง่หนึ่งแล้ว เขาถูกตามหลอนจากอดีตของตัวเอง” ตัวละครเหล่านี้ปรากฏตัวในช่วงเวลาที่แตกต่างกันในภาพยนตร์และแอนโทนิโอก็ได้รับบทเป็นทั้งนักสำรวจชาวสเปน หมอสอนศาสนา นักสำรวจยุคเอ็ดวาร์เดียน นักสำรวจแร่และนักบินหญิงชาวสวีดิช “เป็นเรื่องน่าสนใจมากๆ ที่ได้แสดงเป็นตัวละครหกตัว ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้ในหนังมาก่อน มันสนุกก็จริง แต่ก็ท้าทายด้วย เราใช้เวลาอยู่ในห้องแต่งหน้านานหลายชั่วโมงเลย!”
โรซี่ อลิสัน ผู้อำนวยการสร้างของเรื่อง ผู้มีบทบาทสำคัญในภาพยนตร์ Paddington ทั้งสามภาคตระหนักดีถึงความรับผิดชอบในการสร้างภาคที่สามนี้ “เราคิดกันหนักและนานมากเกี่ยวกับภาคสาม ว่าเราควรจะสร้างมันดีไหม” เธออธิบาย “แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะอยากเห็นแพดดิงตันในการผจญภัยอีกครั้งกับครอบครัวบราวน์ ในภาคแรก แพดดิงตันเพิ่งดั้นด้นออกจากเปรู เพื่อตามหาบ้าน แล้วเขาก็พบบ้านของเขาในลอนดอน ในภาคสอง เราได้สำรวจแพดดิงตันในชุมชนท้องถิ่นของเขาในลอนดอน ตอนนี้ แพดดิงตันได้กลับไปเปรูและเริ่มสงสัยว่า บ้านที่แท้จริงของเขาอยู่ที่ไหน เป็นลอนดอนหรือเปรูกันแน่ หวังว่าการสำรวจอัตลักษณ์และที่ทางที่เขาควรอยู่จะโดนใจผู้ชมนะ”
ผู้ที่ได้มาร่วมงานกับทีมงานและนักแสดงที่สนิทสนมกันเหมือนครอบครัวคือผู้กำกับดูกัล วิลสัน ผู้รับไม้ต่อจากพอล คิง ผู้กำกับภาพยนตร์สองภาคแรก นี่เป็นงานที่หนักหนาสาหัสสำหรับเขารึเปล่าน่ะหรือ “หนังพวกนี้และตัวละครแพดดิงตันเองต่างก็เป็นที่รักใคร่เอ็นดูและทำให้เกิดความคาดหวังอย่างมากต่อการได้เห็นแพดดิงตันมากขึ้นอีกหน่อยน่ะ” เขากล่าว “นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมตื่นเต้นจริงๆ ที่ผู้ชมจะได้เห็นตอนต่อไปของเรื่องราวที่เราตัดสินใจจะเล่า เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวงและค่อนข้างจะทำให้สติแตกได้ทีเดียว แต่ผมก็หวังว่าบทใหม่นี้จะเต็มไปด้วยเรื่องน่าแปลกใจและเป็นส่วนต่อขยายของโลกแพดดิงตันที่เหมาะสม”