การเข้าพิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมตามวัฒนธรรมของตนเองถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่คู่รักเพศเดียวกันหลายๆ คนวาดหวังไว้ที่จะได้มีพิธีแต่งงานร่วมกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว การแต่งงานประเภทนี้มักจะเป็นการจัดงานเพื่อคู่รักต่างเพศตามกรอบของสังคมเท่านั้น ในขณะเดียวกันภาพตัวแทนของการแต่งงานผ่านสื่อฮอลลีวูด ก็มักจะเป็นพิธีแบบตะวันตกที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาคริสต์ เรียกได้ว่าแทบไม่เคยได้เห็นพิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของประเทศต่างๆ กันสักเท่าไหร่
แต่แล้วภาพยนตร์ The Wedding Banquet ทั้งในเวอร์ชั่นต้นฉบับและเวอร์ชั่นปัจจุบัน ได้มีการนำเสนองานแต่งงานแบบดั้งเดิมตามวัฒนธรรมจีนและเกาหลีผ่านหน้าจอให้พวกเราได้เห็นกันเป็นขวัญตา
ทั้งนี้ งานเขียนบทถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อนำเสนอภาพงานแต่งงานแบบดั้งเดิมผ่านจอให้ผู้ชมได้เห็นกันเป็นวงกว้าง สำหรับเวอร์ชั่นของ Andrew Ahn ผู้กำกับภาพยนตร์ Fire Island และยังได้กำกับซีรีส์ตอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Bridgerton, Genra+ion และ Pride ในครั้งนี้ เขาได้ร่วมเขียนบทกับ James Schamus ซึ่งเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์ต้นฉบับ ทั้งคู่ได้มาร่วมกันถ่ายทอดเสียงหัวเราะและความรักผ่านผลงานเรื่องนี้
ในผลงานฉบับ Ang Lee เมื่อปี 1993 ได้นำเสนองานแต่งงานแบบจีนไว้อย่างสวยงาม และนั่นคือความแตกต่างที่เกิดขึ้นกับภาพยนตร์ล่าสุดของแอนดรูว์ “ผมไม่อยากแตะภาพยนตร์ต้นฉบับเลย เพราะผมชอบมันมาก” เขาบอกภายในงาน BFI Flare “คุณไม่สามารถทำให้ The Wedding Banquet ของอั้งลี่ดีขึ้นนะ” และผู้ร่วมเขียนบทอย่าง James Schamus ก็ได้เสริมต่อด้วยว่า “มันเป็นคนละเรื่องกันเลยก็ว่าได้”
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในหนังเรื่องล่าสุด คือการนำเสนอการจัดงานแต่งงานแบบเกาหลีดั้งเดิม พร้อมชุดสุดหรูหรา รวมทั้งนำพิธีแลกลูกพุทราและเกาลัดมาเล่าเรื่องราวผ่านจอภาพยนตร์ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในจุดเด่นของการสร้าง The Wedding Banquet ในเวอร์ชั่นใหม่
ผู้กำกับได้กล่าวว่ามันเป็นหนึ่งในข้อดีที่ทำให้รู้สึกว่าหนังมันร่วมสมัยเอามากๆ “ผมเห็นพี่ชายของตัวเองแต่งงานประมาณ 10 ปีก่อน เขาแต่งงานแบบเกาหลีดั้งเดิมเลย นั่นทำให้ผมเห็นว่าการแต่งงานแบบนี้ทำให้เขาใกล้ชิดกับพ่อแม่มากๆ ทั้งยังใกล้ชิดกับภรรยา รวมถึงตัวตนความเป็นเกาหลีของเขามากขึ้นด้วย” เขาบอกกับ THR ว่า “นั่นทำให้ผมรู้สึกอิจฉาอยู่เล็กน้อยนั่นแหละ”
“เพราะในฐานะเกย์ ผมสงสัยว่ามันจะมีสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ไหม เพราะว่ามันเป็นบรรทัดฐานแบบสองเพศจ๋าๆ เลยนะ ผมสงสัยว่าเกย์จะสามารถแต่งงานและทำพิธีแต่งงานแบบนั้นได้มั้ย ใครจะเป็นคนแบกใครไว้ข้างหลังตามธรรมเนียม เพราะงั้นในพิธีแต่งงานนี้ ผมต้องการแสดงให้เห็นว่ามันสามารถทำให้มันเหมาะกับเควียร์ได้”
“ในฐานะที่เป็นเกย์ ผมสงสัยว่าผมจะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนั้นบ้าง ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเหมือนกับว่ากำลังจัดงานแต่งงานแบบเกาหลีของตัวเองเลย” แอนดรูว์กล่าว
ภาพที่ปรากฎในหนังอาจเปรียบได้ว่าฉากนั้นคือการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและความหลากหลายทางเพศ ที่ช่วยเปิดฉากงานแต่งงานอย่างแท้จริง มันทำให้เต็มไปด้วยอารมณ์อันน่าอึดอัด และแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของผู้ชมแต่ละคน ซึ่งในงานแต่งงานแบบดั้งเดิมของเกาหลีนั้น จะมีการให้บ่าวสาวรับลูกพุทราและเกาลัดเพื่อทำนายถึงทายาทคนใหม่ที่จะเกิดมาในอนาคต ลูกพุทราเป็นสัญลักษณ์แทนลูกชาย ในขณะที่เกาลัดเป็นสัญลักษณ์ของลูกสาว แต่ในกองไม่รู้ว่าอะไรแทนลูกชาย อะไรแทนลูกสาว พ่อแม่ของผมอยู่ในกองถ่ายวันนั้นเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ไม่รู้เรื่องนี้ พวกเราลองเสิร์ชกูเกิลดู แล้วก็พบว่ามันตรงกันข้ามกัน”
เขาเสริมต่อด้วยว่า “วิธีเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการแต่งงานของเกาหลีให้มันเควียร์มากขึ้น คือการสร้างมันขึ้นมาใหม่ ผมหวังว่าเราจะสามารถเพิ่มพื้นที่ให้กับเควียร์ได้บ้างผ่านการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้นะ”
หลังจากที่แอนดรูว์ได้ใช้เวลาท่ามกลางกองถ่าย The Wedding Banquet เขาก็ตระหนักได้ว่านั่นทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจกับครอบครัว และตระหนักได้ว่าแก่นสำคัญของ The Wedding Banquet ไม่ได้ยึดมั่นในครอบครัวแบบรักต่างเพศเท่านั้น “ครอบครัวมีรูปแบบที่แตกต่างกันนะ ผมคิดว่า เมื่อครอบครัวมีค่ามากขนาดนี้ ทำไมเราถึงไม่ได้รับการซัพพอร์ตจากคนในครอบครัวบ้างล่ะ” เขาเสริมว่า “ผมหวังว่าคนจะเข้าใจว่า การที่เควียร์จะต้องตัดสินใจและยอมรับว่าการเป็นพ่อคนแม่คนมันเป็นเรื่องยากแค่ไหน แต่ผมก็คิดว่ามันน่าตื่นเต้นมากๆ และคิดว่ามีเควียร์จำนวนมากสามารถเป็นครอบครัวที่ดีได้”
แอนดรูว์บอกกับ The Hollywood Reporter ถึงความตึงเครียดในบริบททางการเมืองเกี่ยวกับความรุนแรงและกระแสการต่อต้านเควียร์ทั่วโลก “มันน่าวิตกมากๆ ผมได้แต่หวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ที่กำลังออกฉายจะเป็นโอกาสให้ผู้คนได้สร้างชุมชนที่ปลอดภัยเพื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกัน เสริมสร้างกำลังใจ และสามารถออกไปต่อสู้เพื่อสิ่งที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอได้”
นอกจากนี้แล้วคนเขียนบทอย่างเจมส์ได้กล่าวเสริมด้วยว่า “ผมหวังว่าทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์การดูหนังที่เปียมสุข เฉลิมฉลองเควียร์จอยของคนในชุมชน เพราะความสุขทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็พลังพิเศษ และมันเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อชุมชนเควียร์”
The Wedding Banquet เข้าฉายในสหรัฐอเมริกา 18 เมษายนนี้
Photo credit: Luka Cyprian/Bleecker Street/ShivHans Pictures
Sources:
- https://thatshelf.com/andrew-ahn-on-the-wedding-banquet-and-shifting-culture/
- https://www.hollywoodreporter.com/movies/movie-news/andrew-ahn-james-schamus-the-wedding-banquet-queer-rights-1236167706/
- https://www.out.com/film/wedding-banquet-trailer
- https://www.out.com/out-exclusives/the-wedding-banquet-interview
- https://www.scmp.com/lifestyle/entertainment/article/3306710/wedding-banquets-youn-yuh-jung-channelling-her-past-play-gay-mans-grandmother