Nia DaCosta และ Tessa Thompson เผยเบื้องหลัง ‘Hedda’ ภาพยนตร์พีเรียดสุดจี๊ด ที่ความหลากหลายทางเพศไม่ใช่แค่ ‘บาดแผล’

| |

Hedda ภาพยนตร์ดัดแปลงบทละครคลาสสิกของ Henrik Ibsen ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง ด้วยการตีความใหม่ที่ฉีกกรอบเดิมๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเสนอตัวละครหลักอย่าง เฮดดา ให้เป็น หญิงผิวดำ และการเปลี่ยนตัวละครชายสำคัญให้เป็นตัวละครหญิงที่เป็นเควียร์ โดยผู้กำกับ Nia DaCosta และนักแสดงนำ Tessa Thompson ทั้งสองได้ร่วมกันเปิดเผยแรงบันดาลใจและแนวคิดเบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานอันแสนเย้ายวนและซับซ้อนนี้

พลิกโฉม ‘Eilert Lövborg’ เป็น ‘Eileen Lovborg’

Nia DaCosta ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจเปลี่ยนตัวละคร “Eilert Lövborg” เป็น “Eileen Lövborg” โดยระบุว่าเธอต้องการให้เฮดดามี “คู่ปรับที่เป็นผู้หญิงอีกคน” ควบคู่ไปกับ Thea ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายแบบเดียวกับที่เฮดดากำลังเผชิญอยู่ เนียเชื่อว่าการที่ไอลีนเป็นผู้หญิง จะช่วยเน้นย้ำประเด็นหลักของเรื่องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความยืดเยื้อของการเป็นอัจฉริยะ ผู้มีปัญหา ผู้ถูกทำลาย และการบำบัดตัวเองด้วยแอลกอฮอล์ มีความท้าทายที่ทวีความเข้มข้นขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้ร่างกายและชีวิตของผู้หญิง

และจากการตัดสินใจนี้เองที่นำไปสู่การค้นพบที่ว่า “ทุกคนเป็นเกย์!” เนียกล่าวอย่างติดตลก ทำให้เรื่องราวกลายเป็น “รักสามเส้าของเควียร์” ที่เพิ่มมิติความลึกให้กับเรื่องราวเดิมอย่างมาก เทสซ่าเองก็ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เรื่องราวความขัดแย้งและการต่อสู้ดูลึกซึ้งยิ่งขึ้นเมื่อเกิดขึ้นกับกลุ่มเควียร์ในยุค 1950s ที่ต้องต่อสู้เพื่อเสรีภาพของตัวเอง

Hedda – ตัวอย่างอย่างเป็นทางการ | Prime Video Thailand

การนำเสนอ ‘ความหลากหลายทางเพศ’ โดยปราศจาก ‘ความบอบช้ำทางจิตใจ’

สิ่งที่สำคัญและน่าชื่นชมในการตีความของเนียคือการที่เธอ ไม่สนใจที่จะสร้างงานเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับอันตรายของการเป็นคนรักเพศเดียวกัน แต่เธอต้องการให้ การเป็นคนรักเพศเดียวกันเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ ของตัวละคร โดยปราศจากปมความบอบช้ำทางจิตใจที่มักจะมาพร้อมกับการเป็นคนรักเพศเดียวกันในภาพยนตร์พีเรียดแบบนี้

Tessa Thompson ได้กล่าวถึงบริบททางสังคมใน สหราชอาณาจักรยุค 1950s ซึ่งเป็นฉากหลังของภาพยนตร์ว่า แม้ว่าการรักร่วมเพศในชายจะนำไปสู่การจับกุม แต่พวกเขาไม่ได้พิจารณาเรื่องเพศวิถีของผู้หญิงด้วยซ้ำ ทำให้ในบางชนชั้นหรือบางวงสังคม โดยเฉพาะในงานปาร์ตี้หรูหรา อาจเป็นอิสระอีกรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถกระทำสิ่งต่างๆ หลังประตูที่ปิดสนิทได้ แม้ว่าการใช้ชีวิตในความสัมพันธ์อย่างเปิดเผย หรือการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและอาชีพอาจยังเป็นเรื่องยาก ซึ่งความยากลำบากเหล่านี้ได้ถูกฝังลึกอยู่ในความดิ้นรนของตัวละครในภาพยนตร์

ความทะเยอทะยานและ ‘ความฟุ่มเฟือย’ ของเฮดดา

เทสซ่ามองว่าสำหรับเฮดดาแล้ว ความทะเยอทะยานของเธอเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่า รวมถึง ความอยากมีสิทธิ์เข้าถึงบางอย่าง ด้วย เฮดดาไม่ได้ต่อสู้กับเพศวิถีของตนมากเท่ากับการต่อสู้กับความไร้สาระ ของตัวเอง เฮดดายอมรับอย่างสิ้นเชิงว่าเธอจะไม่ถูกมองว่าเป็นบุคคลที่น่าเกรงขาม ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องพยายาม และความรู้สึกนี้เองที่เปิดทางให้เธอทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเหลาะแหละ เฮดดาเป็นผู้หญิงที่จะมีความสุขมาก หากเธอสามารถหาทางลงตัวที่จะมีทั้งความสัมพันธ์แบบคนรักเพศเดียวกันและมีชีวิตแต่งงานที่ให้ความชอบธรรม แก่เธอได้ กล่าวคือ การได้แต่งงานกับผู้ที่สามารถจ่ายบิลต่างๆ และให้ของมีค่าแก่เธอได้

เทสซ่าและเนียเห็นตรงกันว่าการที่เฮดดาเป็น หญิงผิวดำ ในยุค 50s ของอังกฤษ ยิ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับตัวละคร เพราะในฐานะผู้หญิงผิวดำ ประตูแห่งโอกาสที่ไอลีนพอจะเปิดได้ในฐานะผู้หญิงผิวขาว อาจถูกปิดใส่หน้าเฮดดาอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ตอกย้ำความจำเป็นที่เฮดดาต้องแต่งงานเพื่อเงิน และรักษาสถานะทางสังคมเพื่อความอยู่รอดในสังคมชนชั้นสูงที่กำลังเสื่อมถอย

Hedda - Official Trailer | Prime Video

ฉากหลัง ‘ยุค 50s ในอังกฤษ’: สัญลักษณ์ของการเก็บกดและการปรับตัว

Nia DaCosta เลือกย้ายฉากหลังของเรื่องจากนอร์เวย์ยุคเก่า มาเป็น อังกฤษหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุค 1950s ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่ต้องการให้เรื่องราวดูห่างไกลจากผู้ชมจนเกินไป ยุค 50s เป็นช่วงเวลาที่สามารถจดจำได้ง่าย ในเชิงวัฒนธรรมป๊อป และเป็นที่ทราบกันว่าเป็นยุคแห่งการถูกกดขี่ และการปรับตัวให้เข้ากับแบบแผน

หลังสงคราม ผู้หญิงถูกบอกให้กลับบ้าน แม้จะทำงานหนักในช่วงสงคราม ส่วนผู้ชายที่กลับมาจากสงครามก็มีอาการบอบช้ำทางจิตใจ เนียเห็นว่าโลกในยุค 50s นี้ ขยายธีมของบทละครที่โดนใจเธอได้อย่างแท้จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นของความไม่ลงรอยกันระหว่างสิ่งที่ผู้คนรู้สึกว่าถูกต้อง กับสิ่งที่สังคมกำหนด และเมื่อพูดถึงการเก็บกดแล้ว Nia ก็กล่าวอย่างติดตลกว่า “แล้วคุณจะไปที่ไหนอีกนอกจากอังกฤษ”

การกำกับและการร่วมงาน: ‘ความวุ่นวายในงานปาร์ตี้’

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกจัดวางให้เหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในค่ำคืนเดียว ท่ามกลางงานปาร์ตี้สุดหรูหราที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างที่ช่วยเพิ่มความตึงเครียดของเรื่องราว Nia DaCosta เปรียบเทียบโทนของเรื่องที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปนี้ว่าเหมือนกับเวลาที่คุณอยู่ในงานปาร์ตี้ แล้วดราม่าของกลุ่มเลสเบี้ยนกำลังเกิดขึ้นที่ไหนสักแห่ง มันก็แผ่ซ่านไปทั่วงาน

ผู้กำกับให้ความสำคัญกับการซ้อมอย่างมาก รวมถึงการให้แต่ละแผนกทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดการปรับจูน องค์ประกอบต่างๆ เช่น การจัดแสงตามอารมณ์ของเฮดดา หรือการเคลื่อนไหวของกล้อง เพื่อให้ภาพยนตร์รู้สึกว่าได้เคลื่อนไหวและสมจริงเหมือนชีวิตจริง

เทสซ่าเปิดเผยด้วยว่า Hedda คือภาพยนตร์ที่ท้าทายการจัดหมวดหมู่อย่างง่ายดาย และหวังว่าผู้ชมจะได้รับแรงบันดาลใจในการ “เคลื่อนไปในพื้นที่ด้วยอิสรภาพที่จะไม่ถูกจำกัดโดยสิ่งที่คนอื่นบอกว่าเราเป็น” และให้ทุกคนกล้าที่จะยอมรับ “สัตว์ร้าย” (Animals) หรือความมืดมิดที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง เพื่อไม่ให้มันกัดกินเราและทำร้ายคนรอบข้าง

สามารถรับชม Hedda ได้แล้ววันนี้ ทาง Prime Video

Hedda: Official Trailer | Prime Video

Resources:

  • https://www.autostraddle.com/nia-dacosta-tessa-thompson-interview-hedda/
  • https://www.elle.com/culture/movies-tv/a69181127/tessa-thompson-nia-dacosta-hedda-interview/
  • https://www.indiewire.com/features/interviews/nia-dacosta-hedda-director-interview-1234821067/
Previous

aron! ศิลปินหนุ่มดาวรุ่งแนว Cozy Pop ปล่อยอีพี a cozy christmas ฉลองเทศกาลพิเศษสุดอบอุ่น