Rosamund Pike เปิดใจถึงซีรีส์ The Wheel of Time ที่โดนแคนเซิลไปในซีซั่นสาม

| |

ข่าวการแคนเซิลซีรีส์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์อย่าง The Wheel of Time จาก Prime Video ไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สร้างความผิดหวังให้กับทั้งทีมงานและฐานแฟนคลับเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซีซันที่ 3 เพิ่งจะได้รับคำชื่นชมอย่างท่วมท้นว่าเป็นซีซั่นที่ดีที่สุดของซีรีส์ แสดงให้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของการดัดแปลงงานเขียนมหากาพย์ของ Robert Jordan เรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าแม้แต่ความสำเร็จด้านคุณภาพก็ไม่อาจเอาชนะปัจจัยทางธุรกิจได้

Rosamund Pike นักแสดงสาวผู้รับบทเป็น Moiraine Damodred ผู้ใช้พลัง Aes Sedai อันทรงอำนาจ และยังเป็นผู้อำนวยการสร้างของซีรีส์ ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาถึงการถูกตัดจบในครั้งนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้สตูดิโออื่นมองเห็นคุณค่าและเข้ามารับไม้ต่อเพื่อสร้างบทสรุปที่สมบูรณ์ตามที่แฟนๆ สมควรได้รับ

จากความผิดพลาดใน The Wheel of Time ซีซั่น 1 สู่จุดสูงสุดในซีซั่น 3

จากบทสัมภาษณ์กับทาง Collider ล่าสุด Rosamund Pike ยอมรับอย่างชัดเจนว่าซีซั่นแรกของ The Wheel of Time นั้นยังไม่ดีพอ ซึ่งเป็นความเห็นที่สอดคล้องกับแฟนๆ หลายคน เธอชี้แจงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในซีซั่น 1 นั้นมีหลายสาเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความท้าทายที่ต้องเผชิญจากการล็อกดาวน์ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 รวมถึงการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าแผนกบางส่วน และการที่นักแสดงนำคนหนึ่งต้องออกจากกองถ่ายก่อนจะกลับมาถ่ายทำฉากสุดท้าย “แฟนๆ บอกว่าซีซั่น 1 ยังไม่ดีพอ ซึ่งฉันคิดว่าฉันเห็นด้วยนะ ด้วยเหตุผลหลายประการ เราถูกรุมเร้าด้วยสถานการณ์ COVID ในระหว่างการถ่ายทำ เรามีการเปลี่ยนหัวหน้าแผนกบางส่วน” Rosamund Pike กล่าว

อย่างไรก็ตาม Rosamund Pike ยืนยันว่าทีมงานได้เรียนรู้จากความผิดพลาดและพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด “พอถึงซีซั่น 2 เราก็รู้แล้วว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และเรียกได้ว่ามันดีขึ้นมากเลยล่ะ พอถึงซีซั่น 3 ฉันคิดว่าเรากางปีกออกจนสุด และเราแสดงให้เห็นว่าเราสามารถไปได้ไกลแค่ไหน และมันคือโชว์ที่แสดงได้ดี เขียนได้ดี เชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่น และลึกซึ้ง ซึ่งดึงดูดนักแสดงมากฝีมือให้มารับบทสมทบได้ ฉันคิดว่าเราแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราสามารถทำได้กับซีรีส์ชุดนี้”

Rosamund Pike Gets Emotional Over Wheel of Time Fans 🥰 #thewheeloftime #rosamundpike

ผลลัพธ์ก็คือซีซั่น 3 ไม่เพียงแต่สร้างความพึงพอใจให้กับแฟนพันธุ์แท้ของนิยายชุดนี้เพียงเท่านั้น แต่ยังได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยได้คะแนนจากนักวิจารณ์บน Rotten Tomatoes สูงถึง 97% และจากผู้ชมที่ 85% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่องของซีรีส์เรื่องนี้

แม้ว่าคุณภาพจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด The Wheel of Time กลับไม่ได้รับโอกาสให้ไปต่อในซีซั่น 4 ซึ่ง Rosamund Pike ชวนตั้งคำถามด้วยว่า “แน่นอนว่าคุณสงสัยว่า ถ้าเราเริ่มต้นที่จุดนั้น [ซีซั่น 3] เราจะไม่ถูกยกเลิกใช่ไหม? อาจจะใช่ก็ได้”

เธอมองว่าซีรีส์เรื่องนี้อาจตกเป็นเหยื่อของ “ปัจจัยในการตัดสินใจเลิกใช้บริการสตรีมมิ่งอันเลวร้าย” ของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับการนำเสนอ “โชว์ใหม่” มากกว่าการต่อยอดซีรีส์ที่มีฐานแฟนคลับอยู่แล้วและกำลังไปได้สวย

ในขณะที่รายงานบางฉบับระบุถึงเหตุผลทางการเงิน โดยชี้ว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างสูงและตัวเลขผู้ชมในซีซัน 3 ที่ลดลงไม่สามารถหักล้างต้นทุนได้ แต่ในทางกลับกัน ความรักและความผูกพันของแฟนๆ นั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าตัวเลขทางธุรกิจ

การยกเลิกที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เรื่องราวของ The Wheel of Time ที่ดัดแปลงจากหนังสือ 15 เล่ม ยังคงค้างคาอยู่ โดยมีเนื้อหาจากต้นฉบับอีกเกือบ 10 เล่มที่ยังไม่ได้ถูกนำมาเล่า ทิ้งปมสำคัญมากมายเอาไว้ เช่น การที่แรนน์เข้าใกล้ความบ้าคลั่งมากขึ้น และเหล่าผู้ละแสงที่ยังคงลอยนวล นี่คือสาเหตุที่ทำให้ Rosamund Pike ยังคงมีความหวังริบหรี่ โดยได้กล่าววิงวอนอย่างใจจริงว่า “ในความฝันของฉัน สตูดิโออื่นคงจะ ‘ฉลาด’ และรับมันไปสานต่อ”

เธอย้ำว่าในตอนนี้ทีมงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในโลกและเนื้อเรื่องของ Robert Jordan แล้ว พวกเขาสามารถสร้าง “ช่วงสุดท้ายของซีซั่นที่ยิ่งใหญ่สำหรับโชว์นี้” ได้อย่างแน่นอน และเธอยังคงติดต่อกับเพื่อนร่วมงานและเพื่อนนักแสดงคนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึง Rafe Judkins ผู้สร้างซีรีส์ และ Zoë Robins ผู้รับบทเป็น Nynaeve ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดและความพร้อมที่จะกลับมารวมตัวกัน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า แต่ Rosamund Pike ก็ยอมรับในความเป็นจริงของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน เธอกล่าวปิดท้ายด้วยประโยคที่ทำลายหัวใจแฟนๆ ว่า “เรารู้ว่าจะทำอะไรกับหนังสือเหล่านี้แล้ว ดังนั้นใครจะรู้ แต่ฉันคิดว่าเราต้องยอมรับว่ามันจบลงแล้ว”

การที่ The Wheel of Time ถูกยกเลิกในขณะที่กำลังอยู่ในจุดสูงสุดของพัฒนาการ ถือเป็นตัวอย่างที่น่าเศร้าของสงครามสตรีมมิ่งที่ให้ความสำคัญกับความ “ใหม่” และ “กระแสทันที” เหนือกว่าการลงทุนระยะยาวในคุณภาพและการสร้างความผูกพันกับผู้ชม แม้ว่าโชคชะตาของซีรีส์จะดูเหมือนถูกกำหนดไว้แล้ว แต่คำวิงวอนของ Rosamund Pike ก็เป็นเสียงสะท้อนที่ชัดเจนว่า The Wheel of Time มีศักยภาพและฐานแฟนคลับที่พร้อมจะสนับสนุนมัน หากมีสตูดิโอที่ “ฉลาด” พอจะมองเห็นโอกาสนี้และหยิบยื่นบทสรุปที่คู่ควรให้กับมหากาพย์แฟนตาซีเรื่องนี้

สามารถรับชม The Wheel of Time ทั้งสามซีซั่นได้ทาง Prime Video

Previous

SISU: ROAD TO REVENGE – เฒ่ามหากาฬ 2: เมื่อ “ชายผู้ไม่ยอมตาย” ทวงคืนทุกสิ่งด้วยพลัง SISU สุดขีด!

Oh. What. Fun. เมื่อคุณแม่ขอสลัดความเหนื่อยล้า หนีครอบครัวไปฉลองคริสต์มาสตามลำพัง 3 ธันวาคมนี้ที่ Prime Video เท่านั้น

Next