Wear it Purple: ยังคงเป็นฉัน เฉกเช่นวันที่ผ่านมา

| |

คำเตือน
บทความนี้กล่าวถึงการฆ่าตัวตาย ความรุนแรง การล่วงละเมิด

Wear It Purple - 10 Years Of Celebrating Rainbow Youth

เคยสงสัยบ้างไหมว่าในโลกใบนี้จะมีพื้นที่ปลอดภัยให้กับทุกคน โดยเฉพาะ LGBTQIAN+ ที่ต้องอยู่บนโลกใบนี้ร่วมกับบุคคลที่เกลียดกลัวพวกเขาอย่างไร ทั้งที่จริงแล้ว เราทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว ความเกลียดกลัว LGBTQIAN+ นั้นล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัย แม้กระทั่งในช่วงปี 2010 ก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศนั่นเอง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวเอง ทำให้เกิดวัน Wear it Purple Day ขึ้นมานั่นเอง

จุดเริ่มต้นของ Wear it Purple

Wear it Purple Day คือวันที่ต้องการสร้างการตระหนักรู้ถึงปัญหาในสังคมที่เกิดขึ้นต่อวัยรุ่น LGBTQIAN+ โดยเฉพาะปัญหาการกลั่นแกล้งและการคุกคามในกลุ่มเด็กๆ โดยจะมีการจัดงานขึ้นมาในทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมของทุกปีในออสเตรเลีย

จุดเริ่มต้นของ Wear it Purple เกิดขึ้นมาในปี 2010 โดย Katherine Hudson และ Scott Williams  เพื่อตอบสนองต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง เพราะในช่วงปีนั้นเอง วัยรุ่นที่มีความหลากหลายทางเพศได้ฆ่าตัวตายเพราะถูกกลั่นแกล้งและล่วงละเมิด อันเป็นผลมาจากการที่พวกเขาไม่ถูกยอมรับในเพศหรืออัตลักษณ์ของพวกเขา 

หนึ่งในนั้นก็คือ Tyler Clementi วัย 18 ปี ตอนนั้นเขากำลังศึกษาอยู่ที่ Rutgers University ในสหรัฐอเมริกา และตัดสินใจฆ่าตัวตายหลังจากถูกสอดแนมผ่านทางเว็บแคมในขณะที่กำลังอยู่กับแฟน 2 คน โดยรูมเมทที่ชื่อว่า Dharun Ravi แล้วรูมเมทก็นำเรื่องราวไปทวีตว่า “มีรูมเมทเป็นเกย์” “รูมฉันกำลังเอากับผู้ชายว่ะ เย้” และคำพูดแย่ๆ อีกมากมาย หลังจากเรื่องเกิดไม่ถึง 1 วัน ไทเลอร์ก็เครียดมาก และตัดสินใจฆ่าตัวตาย เรื่องราวทั้งหมดก็ได้เป็นประเด็นสังคมในปี 2010 แต่บทสรุปก็คือ ดารันโดนข้อหาละเมิดความเป็นส่วนตัว และถูกสั่งจำคุก 30 วัน แล้วก็โดนปรับ โดนให้ทำงานเพื่อสังคมอีกมากมาย ซึ่งในคดีนี้ มีนักศึกษาหญิงอีกคนหนึ่งที่สมรู้ร่วมคิดด้วย ชื่อว่า Molly Wei เพราะดารันใช้คอมพิวเตอร์ของมอลลี่เพื่อส่องเว็บแคมตัวเองในห้องตอนที่ไทเลอร์อยู่กับแฟน หลังจากคดีนี้ ทำให้เกิด Wear It Purple Day ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนในสังคม ตระหนักถึงปัญหาการกลั่นแกล้งเยาวชน LGBTQIAN+ และป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

Wear it Purple จึงก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้ทั้งโลกได้ตระหนักถึงการสูญเสีย และเพิ่มพื้นที่ปลอดภัยให้กับวัยรุ่นเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ให้พวกเขาเห็นว่ายังมีความหวัง มีคนที่พร้อมสนับสนุนและยอมรับ อีกทั้งยังช่วยให้พวกเขากล้าที่จะภูมิใจในตัวของตัวเอง

Wear it Purple Day

สำหรับในปี 2022 Wear it Purple Day มาในธีม ‘Still Me, Still Human’ เพราะภายใต้ตัวตนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ เราก็คือมนุษย์เช่นเดียวกับทุกๆ คน เป็นพนักงานบริษัท เป็นทนายความ เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน เป็นครูอาจารย์ เป็นผู้บริหาร เป็นนักวาดการ์ตูน เป็นนักเขียน และที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นเยาวชน “มันทำให้มั่นใจได้ว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในการเปิดรับผู้ที่มีความหลากหลาย และเมื่อเวลาผ่านไป ก็จะสามารถขจัดความเลวร้ายที่ลดทอนความเป็นมนุษย์รอบๆ ชุมชน LGBTQIAN+ ได้อย่างสิ้นเชิง”

ในแต่ละปีก็จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐของประเทศออสเตรเลีย อย่างในปี 2010 ที่เป็นครั้งแรกของการจัดงานนี้ขึ้นมา ก็ได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข สหพันธ์ครู Coming Out Australia และ RUOK? ในปี 2012 ก็ได้รับทุนสนับสนุนจาก NSW Mental Health Association และ ACON ในปี 2015 ก็ได้รับการสนับสนุนจากกรมอนามัย ในปี 2016 สภาเมืองซิดนีย์ก็เปิดไฟสีม่วงส่องศาลากลางเพื่อสนับสนุนวันนี้ ในปี 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจควีนส์แลนด์ก็สวม Pride Patch ภายในงานนี้ด้วยเช่นกัน และการสนับสนุนจากอีกหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างการตระหนักรู้ให้กับคนในสังคม 

ไม่ว่าจะเป็นการสวมชุดสีม่วง ใช้แฮชแท็ก #wearitpurple และ #stillmestillhuman ในปีนี้เพื่อแสดงการสนับสนุนและเพิ่มการมองเห็นให้กับคนในชุมชน

Previous

Kenny Beats ประกาศอัลบั้มเต็มชุดแรก LOUIE เผยตัวตนและความรู้สึกที่ไม่มีใครเห็นมาก่อน

A League of Their Own: ประกอบร่างสร้างพื้นที่ให้กับผู้หญิงในสนามเบสบอล

Next