วงการเพลงป๊อปต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ elijah woods ศิลปินป๊อปดาวรุ่งที่พ่วงตำแหน่งนักร้อง-นักแต่งเพลง/โปรดิวเซอร์เจ้าของยอดขายระดับ Multi-platinum ได้ฤกษ์ปล่อยอัลบั้มเดบิวต์ที่ทุกคนตั้งตารอคอยอย่าง ‘Can We Talk?’ ด้วยยอดสตรีมรวมทั่วโลกที่ทะลุ 1 พันล้านครั้ง ไปแล้ว รวมถึงการทัวร์คอนเสิร์ตที่บัตรขายหมดเกลี้ยงทั้งในแคนาดาและเอเชีย การขึ้นแสดงบนเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลก และการได้รับเลือกให้เป็นศิลปินเปิดให้กับ Niall Horan ทำให้ elijah ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในวงการเพลงป๊อปยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง
elijah woods สร้างฐานแฟนคลับทั่วโลกที่เหนียวแน่นกว่า 5 ล้านคน ได้ด้วยตัวเขาเองในฐานะ ศิลปินอิสระ (Independent Artist) โดยอัลบั้มชุดนี้คือการส่งมอบผลงานที่รวบรวมทั้งความใกล้ชิดทางอารมณ์ และความประณีตในการทำเพลงป๊อปที่ดึงดูดใจ ซึ่งเป็นนิยามของการก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็วดุจดาวตกของเขา ตลอดทั้ง 11 เพลง ในอัลบั้ม ‘Can We Talk?’ นี้ เป็นการผสมผสานระหว่าง ความเปราะบางที่เข้ากับท่อนฮุคสุดพีค ยืนยันว่า elijah เป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่ที่ความซื่อสัตย์มาบรรจบกับพลังงานป๊อปที่ปฏิเสธไม่ได้
การเปิดตัวอัลบั้มนี้เป็นเหมือนการเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน elijah ได้เปิดใจเกี่ยวกับผลงานชิ้นนี้ว่า “‘Can We Talk?’ เป็นโปรเจกต์ที่เป็นส่วนตัวที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมา มันคือการรวบรวมความคิดยามค่ำคืนและการสนทนาที่เกิดขึ้นจริง สิ่งที่ผมเคยพูด สิ่งที่ผมหวังว่าจะได้พูด และสิ่งที่ผมอาจจะไม่มีวันพูดออกมาดังๆ สำหรับผมแล้ว มันเกี่ยวกับความยุ่งเหยิงที่สวยงามของการพยายามเชื่อมต่อกับผู้คน และการหลงทางในการสื่อสารที่ผิดพลาดได้ง่ายดายแค่ไหน”
elijah ยังอธิบายว่าอัลบั้มนี้คือภาพสะท้อนของการเติบโตทั้งในด้านส่วนตัวและในฐานะศิลปิน เขาเล่าว่าในการทำอัลบั้มนี้ เขาได้ “ไล่ล่าความรู้สึกของวุฒิภาวะทางดนตรี การค้นพบความสบายใจในการปล่อยให้เพลงได้หายใจทางอารมณ์ไปพร้อมๆ กับการดึงดูดคุณด้วยโปรดักชั่นที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ กล้าหาญ และมีชีวิตชีวา” เขากล่าวต่อว่า “อัลบั้มนี้ให้ความรู้สึกเหมือนในที่สุดก็ได้ปล่อยให้ผู้คนเข้ามานั่งอยู่ในห้องกับผม ขณะที่ผมกำลังทำความเข้าใจทุกอย่าง” ซึ่งเป็นเหมือนคำเชิญอย่างเปิดเผยเข้าสู่เวอร์ชันที่ซื่อสัตย์ที่สุดในเส้นทางศิลปะของเขา
ก่อนการปล่อยอัลบั้มอย่างเป็นทางการ ซิงเกิลต่างๆ ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ได้สร้างกระแสฮือฮาไปแล้ว โดยสามารถครองตำแหน่งที่ดีบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง (DSP placements) และได้รับการเปิดทางวิทยุในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพลงอย่าง “Could You Love Me?”, “Ghost on the Radio”, “Slicked Back Hair” และเพลงล่าสุด “I Miss You” ได้ช่วยกำหนดโทนทางอารมณ์ของอัลบั้มนี้ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของ elijah ตั้งแต่ บัลลาดที่เต็มไปด้วยอารมณ์ดิบ ไปจนถึง เพลงป๊อปที่มีจังหวะสนุกสนานและชวนเต้น
หลายเพลงเหล่านี้ได้กลายเป็นเพลงโปรดของแฟนๆ ในการทัวร์คอนเสิร์ตไปแล้ว ซึ่งสร้างการตอบรับที่ทรงพลังในการแสดงสด และการแสดงแต่ละครั้งก็ยิ่งช่วยเสริมสร้างความผูกพันระหว่าง elijah กับผู้ชมให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสร้างแรงผลักดันและความคาดหวังให้กับสิ่งที่หลายคนเรียกว่าเป็นโปรเจกต์ที่สร้างนิยามให้กับเขามากที่สุด
นอกจากนี้ การปล่อยอัลบั้ม elijah ได้เปิดตัวมิวสิกวิดีโออย่างเป็นทางการสำหรับเพลงเปิดอัลบั้มและเพลงโฟกัสคือ “So Good” ซึ่งเป็นเพลงป๊อปที่ติดหู ชวนร้องตาม และสื่อถึงความเร่งรีบของความรักครั้งใหม่และแสงสว่างที่เปลี่ยนชีวิต elijah อธิบายว่า “”So Good” เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกนั้นเมื่อมีใครบางคนเดินเข้ามาในชีวิตคุณ และจู่ๆ ทุกสิ่งก็รู้สึกเบาลง ง่ายขึ้น และดีกว่าที่คุณคาดหวัง—ความปรารถนาในสิ่งที่ไม่อาจจะลืมได้เลย”
ตลอดห้าปีที่ผ่านมา elijah ได้ปล่อย 5 EPs และซิงเกิลไวรัลมากมาย ทำให้เขาสร้างเส้นทางที่น่าทึ่งในฐานะ ศิลปินอิสระอย่างเต็มตัว ด้วยอัลบั้ม ‘Can We Talk?’ elijah ได้มอบสิ่งที่แฟนๆ ต่างหลงรัก เพลงที่มีอารมณ์ร่วม มีชีวิตชีวา และสื่อสารตรงจากหัวใจ
elijah woods เพิ่งเสร็จสิ้นการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สองในเอเชีย ‘Give Me The Sunlight!’ โดยได้จุดประกายใน 12 เมือง รวมถึงการแสดงที่บัตรขายหมดเกลี้ยงในไทเปและฮ่องกง การแสดงหลักที่ The Sounds Project ใน Jakarta และการแสดงที่โดดเด่นที่เทศกาล Summer Sonic Festival ของญี่ปุ่นทั้งที่โอซาก้าและโตเกียว การทัวร์ครั้งนี้ยังรวมถึงการหยุดพักครั้งสำคัญในมะนิลา, สิงคโปร์, กรุงเทพฯ และเมืองอื่นๆ อีกมากมาย
ก่อนหน้านี้ในปี 2024 elijah ก็เพิ่งขายบัตรทัวร์เอเชียครั้งแรกของเขาหมดเกลี้ยงเมื่อเดือนพฤษภาคม รวมถึงการเป็นศิลปินเปิดให้กับ Niall Horan ที่จาร์กาตาร์ และการขึ้นแสดงบนเวที Seoul Jazz Festival เคียงข้าง Lauv, Jeremy Zucker และ JP Saxe ในปัจจุบัน เอเชียเป็นตลาดที่มียอดสตรีมสูงสุดของเขาทั่วโลก โดยมีตลาดชั้นนำ ได้แก่ อินโดนีเซีย (อันดับ 2), ฟิลิปปินส์ (อันดับ 3), ไต้หวัน (อันดับ 5), อินเดีย (อันดับ 6), มาเลเซีย (อันดับ 8), ไทย (อันดับ 9) และ สิงคโปร์ (อันดับ 11)
ด้วยอัลบั้มเดบิวต์ชุดนี้ elijah woods ได้ตอกย้ำสถานะของตัวเองในฐานะหนึ่งในศิลปินป๊อปที่มีเสียงอันทรงพลังทางอารมณ์และกำลังก้าวขึ้นสู่ระดับโลก มอบผลงานที่ ซื่อสัตย์ และ น่าจดจำ อย่างแท้จริง
สตรีมอัลบั้มเดบิวต์จาก elijah woods ได้ที่ https://elijahwoods.lnk.to/canwetalk
