หลังสร้างปรากฏการณ์ความมันส์ระห่ำขึ้นแท่นหนังแอ็กชันสายโหดแห่งปี 2024 กันไปแล้วกับ “The Beekeeper” ผลงานสุดเดือดของซูเปอร์สตาร์แอ็กชัน “เจสัน สเตแธม” (Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw) จากฝีมือการกำกับของ “เดวิด เอเยอร์” (Fury, Suicide Squad) ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจนกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปีนี้ พวกเขาพร้อมกลับมาจับคู่สู่บัญญัติความมันส์ครั้งใหม่ ยกระดับความเดือดครั้งใหญ่ใน “A Working Man นรกหยุดนรก” ภาพยนตร์แอ็กชันถึงลูกถึงคนเต็มขั้น จากการล้างแค้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สู่การตามล่าล้างบางแก๊งค้ามนุษย์เครือข่ายยักษ์ที่กฎหมายก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้ ทางเดียวคือเขาต้องลุกขึ้นสู้ด้วยทุกสกิลที่มีงัดทั้งอาวุธ จัดหมัด จัดตีน จัดเต็ม ซัดพวกเดนนรกให้ลงนรกอย่างสาสม
“A Working Man” เล่าเรื่องราวหลังล้างมือจากวงการทหารมาทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง “เลวอน เคด” (เจสัน สเตแธม) ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกับครอบครัว แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อ “เจนนี” ลูกสาวของเจ้านายซึ่งเปรียบเสมือนครอบครัวได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เลวอนถูกขอให้หวนคืนสู่วงการเสี่ยงตายอีกครั้ง เขาออกตามหาและไล่ล่าจนล่วงรู้แผนทุจริตและอาชญากรรมครั้งใหญ่ของขบวนการค้ามนุษย์ระดับชาติที่ลักพาตัวผู้บริสุทธิ์มากมายเข้าสู่วงจรธุรกิจนรก เลวอนจึงต้องใช้ทักษะที่เคยสร้างให้เขาเป็นตำนานนักสู้เพื่อช่วยชีวิตหญิงสาวให้ปลอดภัย และล้างบางขบวนการค้ามนุษย์สุดโฉดนี้ให้สิ้นซาก
ทวีคูณความเข้มข้นด้วยการได้แอ็กชันสตาร์ระดับตำนาน “ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน” ต้นฉบับแรมโบ้มาร่วมเขียนบทและควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ให้อีกด้วย ซึ่งการันตีได้ว่านี่จะเป็นหนังแอ็กชันสายลุยที่เล่นใหญ่และโหดเต็มข้อของปีนี้อย่างแน่นอน
บรรยากาศการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ของเดวิด เอเยอร์ คือหนึ่งสิ่งที่ช่วยสร้างผลงานให้น่าสนใจ ไม่เหมือนใคร และนักแสดงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่หรือหน้าใหม่ ต่างก็ประทับใจกับวิธีการทำหนังของเขา “ผมว่าเดวิดเป็นคนชอบค้นหาอะไรใหม่ ๆ” เดวิด ฮาร์เบอร์บอก “เขาพยายามทำให้เนื้อเรื่องมันลึกซึ้งขึ้นตลอดเวลา แถมเขาก็ไม่หวงวิชาด้วย เขาอยากให้นักแสดงลองอะไรใหม่ ๆ เสมอ อยากให้ทีมงานอุปกรณ์ ทีมไฟ เอาของมาเพิ่ม เขาอยากให้คนอื่น ๆ ช่วยทำให้โลกในหนังมันมีชีวิตชีวามากขึ้น การทำงานกับเขาเลยเหมือนการผจญภัยตลอดเวลา”
อาจูโฟเสริมว่า “เขาเรียกผมเข้าไปคุยในห้องทำงาน เราก็คุยกันเรื่องตัวละครตั้งครึ่งชั่วโมง แบบเจาะลึกทุกรายละเอียด ผมไม่ค่อยเจอผู้กำกับคนอื่นทำแบบนี้ ส่วนใหญ่แค่คุยผ่าน ๆ ไม่กี่นาที แต่เดวิดอยากคุยแบบสบาย ๆ เขาอยากจะทำความเข้าใจตัวละครพร้อมทำความรู้จักกับคุณไปด้วย”
เจสัน เฟลมมิง ประทับใจการเตรียมงานของเอเยอร์ในการสำรวจบทและตัวละคร “เดวิดทำสิ่งผมไม่ได้เห็นมานานแล้ว” เขาเล่า “เขาจัดโต๊ะเป็นรูปเกือกม้าหันหน้าชนกัน ให้นักแสดง 30 คนมานั่ง แล้วสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในบท เขาชอบทำงานกับนักแสดงมาก เขาชอบดูว่าพวกเขาทำอะไร แถมมีเซนส์ที่คม เขาเน้นให้เข้าถึงอารมณ์และความสมจริง ผู้กำกับคนอื่น ๆ ไม่ค่อยทำแบบนั้น พวกเขาจะพูดแค่ว่า ‘เฮ้ยเฟลมมิง เล่นให้เร็วกว่านี้หน่อย แล้วมองไปทางนั้นด้วยตอนพูด'”
อาริอันนา ริวาสรู้สึกว่าวิธีการกำกับของเอเยอร์ช่วยกระตุ้นพลังให้เธอ เขาไม่ได้เป็นการสั่งว่าต้องทำอะไรยังไง แต่เป็นการถามคำถามที่กระตุ้นความคิด เพื่อให้ได้สิ่งที่พิเศษออกมาตอนถ่ายทำ
“เขามักจะมาพร้อมคำถามกระตุ้นสมองเรา” ริวาสบอก “เขาจะปล่อยให้ความคิดเราทำงาน แล้วก็เริ่มถ่าย ฉันว่านี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เขาพิเศษ เราไม่ต้องคิดวิเคราะห์อะไรมากมาย เราแค่ต้องรู้สึกในสิ่งที่เขาพูด ซึ่งมันมอบให้อิสระกับเรา”