Lydia Night อดีตนักร้องนำวง The Regrettes จากลอสแอนเจลิส ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกที่มีชื่อว่า “Parody of Pleasure” ผ่านทาง Warner Records อัลบั้มนี้เป็นการสำรวจแนวเพลงป๊อปซึ่งเป็นแนวเพลงที่หล่อหลอมรสนิยมทางดนตรีของลิเดีย “ตอนเด็กๆ ฉันหลงใหลดนตรีพังก์เพราะพ่อ แต่พอโตขึ้น แม่ก็แนะนำให้ฉันรู้จักดนตรีป๊อปที่ติดตรึงอยู่ในใจฉันตลอดกาลและเป็นแรงบันดาลใจให้กับอัลบั้มนี้มากมาย อย่างเช่น Gwen Stefani, Madonna, และ Britney Spears”
การแต่งเพลงของลิเดียเน้นไปที่ประสบการณ์ของผู้หญิงในยุคปัจจุบัน โดยใช้ความซื่อสัตย์ ความตระหนักรู้ในตนเอง และอารมณ์ขัน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผลงานของเธอตั้งแต่ก่อตั้งวง The Regrettes ตอนอายุ 15 ปี “บางเพลงทำให้ฉันอยากร้องไห้ บางเพลงทำให้ฉันอยากเต้น โดยรวมแล้วเพลงเหล่านี้เติมเต็มทุกพื้นที่ที่ฉันต้องการ” ไนท์กล่าว เธออธิบายว่าเพลงในอัลบั้มมีอารมณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทำให้เธออยากร้องไห้ไปจนถึงทำให้เธออยากเต้น เพลงไตเติ้ลของอัลบั้ม “Pity Party” ได้ให้ชื่อแก่อัลบั้มด้วยเนื้อเพลงที่ว่า “It’s a parody of pleasure / Lips big and red like a clown / It’s all just a pity party / So cry for me or get out.” ลิเดียตระหนักว่าวลีนี้สามารถนำมาทำเป็นคำย่อสำหรับ “pop” ได้ ทำให้เป็นชื่อที่สมบูรณ์แบบสำหรับอัลบั้มป๊อปในแบบฉบับของเธอที่เกี่ยวข้องกับความโหยหาความรักและความเสน่หา
อัลบั้มนี้ส่วนใหญ่โปรดิวซ์โดย Alexis Kesselman โปรดิวเซอร์/นักแต่งเพลงจากนิวยอร์กซิตี้ Lydia Night ทำงานกับเธอที่สตูดิโอของ Kesselman ในอพาร์ตเมนต์ย่าน Hell’s Kitchen หลังจากที่พวกเขาได้พบกันในงานเขียนเพลงที่ลาสเวกัสในปี 2023 ลิเดียกล่าวว่าการทำงานกับโปรดิวเซอร์หญิงเป็นครั้งแรกนั้น “เปลี่ยนเกม” สำหรับเธอ โดยให้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสะดวกสบายในการเป็นตัวเองที่แท้จริงที่สุด
นอกจากนี้ ลิเดียยังได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ “The Bomb” พร้อมกับมิวสิกวิดีโอที่เธอกำกับร่วมกับ Ramisha Sattar ลิเดียอธิบายว่าเพลงนี้เกี่ยวกับ “love-bombing” ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยทั้งในฐานะผู้ให้และผู้รับ และเกี่ยวกับการโหยหาความวุ่นวายเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ที่มั่นคง “love-bombing เป็นสิ่งที่ฉันคุ้นเคยมาก ฉันเคยผ่านมันมาทั้งทางร่างกายและจิตใจ และพบว่าตัวเองโหยหาความวุ่นวายเมื่อฉันอยู่ในสถานการณ์ที่แข็งแรงและมั่นคง เพลงนี้กำลังล้อเลียนมันอย่างโง่เขลาและสวยงาม” ซึ่งเพลง “The Bomb” ตามมาหลังจากซิงเกิลอื่นๆ ที่เพิ่งปล่อยไป รวมถึง “Gutter,” “The Hearse,” และ “Pity Party”
ตลอด 13 เพลงในอัลบั้ม ลิเดียได้สำรวจแง่มุมต่างๆ ของตัวเอง ตั้งแต่อารมณ์ขันไปจนถึงความอ่อนไหวอย่างแท้จริง เธอหวังว่าอัลบั้มนี้จะช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกรักตัวเองมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เพลงโปรดของเธอเคยทำเพื่อเธอ
สำหรับอัลบั้ม Parody of Pleasure ลิเดียได้เล่าว่าการได้ควบคุมความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมดเหนืออัลบั้มนี้ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนของเธออย่างลึกซึ้ง “การได้กลับมาสร้างสรรค์ผลงานอีกครั้งทำให้ฉันมั่นใจอย่างแท้จริงและรู้สึกเท่ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และฉันคิดว่าคุณคงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้นในเพลง” เธอกล่าว “ฉันหวังว่าทุกคนจะได้รับทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการจากอัลบั้มนี้ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันหวังว่ามันจะช่วยให้พวกเขารู้สึกถึงความรักที่มากขึ้น เพราะนั่นคือสิ่งที่เพลงโปรดของฉันมอบให้ฉันมาตลอด”
นอกจากนี้แล้ว Lydia Night ยังออกทัวร์ร่วมกับ The Aces เพื่อเล่นเปิดเวทีในเมืองต่างๆ เช่น ชิคาโก บอสตัน และลอสแอนเจลิส ลิเดียเปิดเผยว่า “นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้ออกทัวร์ และรู้สึกว่านี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้กลับมาออกทัวร์อีกครั้ง ฉันโชคดีมากที่ได้เจอกับ The Aces สองสามครั้ง และบอกได้เลยว่าทัวร์นี้จะต้องพิเศษ ทั้งบนเวทีและนอกเวที” นอกจากนี้แล้ว เธอยังจะมีการแสดงพิเศษเพื่อฉลองการปล่อยอัลบั้มอีกสองรอบ: ที่ LA ที่ The Echo ในวันที่ 13 สิงหาคม และที่นิวยอร์กที่ Baby’s Alright ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้
สตรีม “Parody of Pleasure” อัลบั้มเดบิวต์จาก Lydia Night ได้ที่ https://lydianight.lnk.to/POP
