ลิสต์ห้ามพลาดกับซีรีส์บน Prime Video หลากหลายแนว

| |

สตรีมมิ่งในทุกๆ วันนี้ก็มีให้เลือกดูเลือกสมัครกันเป็นจำนวนมาก แล้วสตรีมมิ่งใหม่ที่เพิ่งมาเปิดตัวในไทยอย่าง Prime Video ก็มีคอนเทนต์ให้เลือกรับชมกันอย่างมากมาย แต่ถ้าใครยังเลือกไม่ถูกก็ต้องห้ามพลาดเลย เพราะว่าวันนี้ The Noize Team ก็ได้รวบรวมลิสต์ซีรีส์บน Prime Video ที่น่าสนใจมาฝากให้กับทุกคนได้เลือกรับชมกัน ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลยว่าจะมีซีรีส์เรื่องไหนกันบ้างที่น่าสนใจ

Preacher (2016-2019)

แนะนำโดย BROTHER OOD

Preacher - Launch Trailer | Prime Video

Preacher ซีรีส์แนวดาร์คแฟนตาซี มาในโหมด ดิบ เดือด เถื่อน ระห่ำ ดัดแปลงจากคอมิกส์ผลงานของ การ์ธ เอนนิส (Garth Ennis) ผู้สร้างเดียวกันกับ The Boys จาก DC Comics และ Punisher จาก Marvel Comics ด้วยสไตล์ที่โดดเด่นจากการเล่าเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่ในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ Preacher ถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ซีซั่นแรกเมื่อปี 2015 โดยซีซั่นแรกที่เปิดตัว มีผู้ชมร่วมหลายล้านคนและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จนกระทั่งซีซั่นสุดท้าย (ซีซั่น 4) ที่ออกฉายในปี 2019

ซีรีส์ Preacher เล่าเรื่องราวของบาทหลวงจากบ้านไร่ “เจสซี่ คัสเตอร์” (รับบทโดย Dominic Cooper) ชายผู้หลบซ่อนอดีตอันดำมืดของตัวเองต้องเข้าไปพัวพันกับพลังเหนือธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ เขาจึงต้องติดต่อกับ “ทิวลิป โอแฮร์” (รับบทโดย Ruth Negga) อดีตแฟนสาวอีกครั้ง หลังจากแยกทางกันไปเติบโตเพราะเธอยังสนุกกับการรับจ้างเป็นนักฆ่ามือพระกาฬ

เพื่อค้นหาคำตอบของพลังวาจาสิทธิ์ ที่มีแต่เพราะเจ้าเท่านั้นที่ใช้ได้ 

พวกเขาจึงต้องออกเดินทางร่วมกันอีกครั้ง  โดยมี “แคสซิดี้” แวมไพร์หนุ่มขี้เมาที่พยายามจะเลิกกินเลือดคนติดสอยห้อยตามการเดินทางครั้งนี้ไปด้วย ท่ามกลางความอลหม่านที่เจอโชคชะตายังรอเซอร์ไพรส์พวกเขาด้วยการส่งหน่วยงานเทวทูตจากสวรรค์มาตามคิดบัญชี เปิดบ้านทัวร์นรก ท้าทายความเชื่อ จิกกัดศาสนาและองค์กรสวรรค์ ถ้าใครชอบแนวนี้ เราขอแนะนำเลย

Fleabag (2016-2019)

แนะนำโดย Poyhooood (ภวังค์​หนัง​)

“พ่อว่าลูกเรียนรู้ที่จะรักได้ดีกว่าใคร นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมลูกจึงพบแต่ความเจ็บปวด”

Fleabag ซีรีส์คอเมดี้-ดราม่าบน Prime Video ผลงานคุณภาพจาก Phoebe Waller-Bridge ที่ขึ้นแท่นเป็นทั้งผู้สร้าง คนเขียนบท และแสดงนำด้วยตัวเอง ว่าด้วยเรื่องราวสุดป่วนชวนเวียนหัวของ Fleabag ที่เธอมักเข้าไปอยู่ท่ามกลางสถานการณ์เลวร้าย ทุกย่างก้าวของชีวิตเปรียบเหมือนย่ำอยู่บนจังหวะนรก ทั้งความขัดแย้งภายในครอบครัวที่ต้องเผชิญ ความรักที่ไม่เคยสมหวัง ความทุกข์ที่กัดกิน และความรู้สึกผิดในอดีตที่วนเวียนหลอกหลอนตลอดเวลา หากแต่เรื่องราวทั้งหมดนั้น ถูกถ่ายทอดด้วยความตลกร้ายหน้าตาย เจือปนด้วยรสชาติขมเฝื่อน ที่ทำให้ผู้ชมหลายต่อหลายคนหัวเราะไปทั้งน้ำตา

Best Moments from Seasons 1 + 2 | Fleabag | Prime Video

เมื่อ Fleabag ต้องรับมือกับความเหงาเดียวดาย การมีเพื่อนข้างกายสักคนคงเป็นสิ่งที่เธอโหยหา เราจึงได้เห็นตัวละคร Break the Fourth Wall (ทำลายกำแพงที่สี่) หันหน้ามาพูดคุยกับผู้ชมเป็นระยะ ทั้งสบถ ก่นด่า ระบัดระบายความทุกข์ในใจ เสมือนว่าเราต่างก็เป็นเพื่อนซี้ในจินตนาการของเธอ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์สำคัญและเสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้เลยก็ว่าได้

ไม่ว่าคุณจะเคยผิดหวัง ช้ำรัก หรือจมปลักกับเรื่องราวในอดีต เชื่อว่าการได้ทำความรู้จักกับ Fleabag เพื่อนซี้ที่ชีวิตเหลวแหลกคนนี้ อาจทำให้คุณพบว่าบนโลกที่โหดร้าย ไม่มีใครมองเห็นค่า มันอาจไม่แย่มากมายนัก หากมีใครสักคนรับฟังและแบ่งปันเรื่องราวหล่านั้นไปพร้อมกันกับเรา

[ดูจบแล้วแวะฟังพอดแคสต์ Fleabag จาก The Eavesdropperings ได้เลย]

Sound of Metal (2019)

แนะนำโดย Poyhooood (ภวังค์​หนัง​)

เมื่อโลกที่ขับเคลื่อนไปด้วยเสียงดนตรี ถูกความเงียบงันคืบคลานเข้ามา ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงพาเราไปสดับรับฟังถึงเรื่องราวของชายผู้สูญเสียการได้ยินอย่างฉับพลัน เขาถูกพรากเอาทุกท่วงทำนองแห่งความฝัน และทุกจังหวะของชีวิตให้หายไป

Sound of Metal ผลงานกำกับจาก Darius Marder ที่คว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Sound และ Best Film Editing ไปครอง นี่คือเรื่องราวของ Ruben (Riz Ahmed) มือกลองหนุ่มไฟแรงที่ต้องรับมือกับความสูญเสียทั้งกายและใจ เมื่อวันหนึ่งเขาเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินอย่างฉับพลัน (Sudden Sensorineural Hearing Loss) ระหว่างที่เล่นคอนเสิร์ตอยู่บนเวที เพียงชั่ววินาทีเท่านั้นที่โรคภัยอันร้ายกาจผลักให้เขาต้องกลายเป็นอื่นในโลกที่คุ้นเคย ทั้งต้องยอมรับ ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้ที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ท่ามกลาง “ชุมชนคนหูหนวก (Deaf Community)”

Sound of Metal – Official Trailer | Prime Video

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการออกแบบ “เสียง” เพราะในขณะที่ตัวละครเริ่มสูญเสียการได้ยินไปทีละน้อย เราในฐานะผู้ชมต่างก็ได้ร่วมสัมผัสกับประสบการณ์และความรู้สึกนั้นไปพร้อมกัน ความชัดแจ้งถูกรบกวนด้วยเสียงแทรกซ้อน อื้ออึงไปด้วยความขุ่นมัว และท้ายที่สุดก็ดับวูบจางหายไป เหลือไว้เพียงแต่ช่วงเวลาที่ตัวละครต้องดำดิ่งภายใต้จิตใจอันอึกทึกครึกโครม

แม้ความรู้สึกที่ Sound of Metal มอบให้กับเรานั้นหนักหน่วงเหมือนถูกหวดด้วยไม้กลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากแต่ความสงบบางอย่างท่ามกลางจังหวะอันรุนแรงนั้น เป็นเหมือนการสำรวจ “ความเงียบงัน” และ “เสียงอันดังก้อง” ในจิตใจของมนุษย์ยามที่เผชิญหน้ากับความมืดมิดได้เป็นอย่างดีเหลือเกิน

Hanna (2019-2021)

แนะนำโดย onlymyfavgirls

เมื่อเด็กหญิงถูกแยกจากครอบครัวตั้งแต่แรกเกิด เพื่อฝึกฝนให้กลายเป็นนักฆ่าที่สมบูรณ์แบบ
มันจะเกิดอะไรขึ้น หากมีเด็กหญิงคนหนึ่งถูกลักพาตัวออกไปจากแลปแห่งนั้น?

Hanna Season 1 Be the Girl No One Saw Coming | Prime Video

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับพล็อตนี้และชื่อเรื่องเดียวกัน ที่ได้ Saoirse Ronan มารับบท Hanna ในภาพยนตร์เมื่อปี 2011 แต่สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ ก็หยิบเอาภาพยนตร์มาเป็นเมนหลักในการเล่าเรื่องราวของเด็กสาว คุณพ่อ ความลับ และการปรับตัวเมื่อเธอตัดสินใจที่จะฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อ และพยายามใช้ชีวิตบนโลกใบใหญ่ที่เธอไม่คุ้นเคย มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวตลอด 3 ซีซั่นให้คุณได้รับชมกัน

เรื่องราวในแต่ละซีซั่น เจาะประเด็นต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ และเล่าเรื่องแตกต่างกันออกไป อย่างในซีซั่นแรกที่เธอพยายามหาทางออกจากป่าที่คุ้นเคย ไปพบกับโลกใบใหญ่ ไปจนถึงความจริงที่เธอเลือกที่จะทำ ในซีซั่นที่สองก็จะพาไปทำความรู้จักกับโรงเรียนฝึกนักฆ่า การไล่ล่า การใช้ชีวิต ไปจนถึงการปรับตัวในโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของฮานน่าเอง หรือเด็กสาวในสถานที่แห่งนั้น และในซีซั่นสามคือบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมา เรื่องราวจุดเริ่มต้น และการก้าวเดินต่อไปของทุกๆ ตัวละครที่ยังเหลือรอดมาจนถึงซีซั่นสุดท้าย

ประเด็นที่สอดแทรกเข้ามาในเรื่องก็ชวนให้เราหวนคิดถึงเรื่องราวในสังคม ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยค้นหาตัวตน การรับมือกับความรู้สึกต่างๆ ที่แปลกใหม่ การเป็นคนแปลกที่แปลกถิ่น การปรับตัวเข้ากับคนในสังคมใหม่ๆ ไปจนถึงประเด็น Freewill ที่เขาต้องการที่จะสื่อสารมันออกมา ว่าเมื่อคนถูกสอนมาในรูปแบบเดียวกัน วิธีคิดเดียวกัน แต่เมื่อตัดสินใจเองแล้ว มันจะส่งผลอย่างไร มันจะเป็นยังไงต่อ และอะไรที่เขาใช้พิจารณา ซีรีส์ Hanna ชวนคุณขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะต่อให้ฉากหน้ามันจะเป็นซีรีส์แอคชั่น บู๊สนั่น แต่ประเด็นยิบย่อยที่เขาใส่เข้ามานั้น ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ

Undone (2019-2022)

แนะนำโดย Poyhooood (ภวังค์​หนัง​)

หากย้อนเวลาได้ เราจะกลับไปแก้ไขอดีตหรือเพียงให้อภัยต่อความผิดพลาดในวันวาน

พบกับ Undone อนิเมชั่นซีรีส์แนวไซไฟ ตลกร้าย บน Prime Video ที่พาเราไปสำรวจชีวิตอันพิศวงของ Alma เมื่อวันหนึ่งหลังจากประสบอุบัติเหตุ เธอพบว่าตัวเองนั้นสามารถเดินทางข้ามเวลาและติดต่อกับพ่อที่เสียไปในวัยเด็กได้ เรื่องราวทั้งหมดจึงนำไปสู่การไขปริศนาลี้ลับของครอบครัวที่ซุกซ่อนอยู่ในกาลเวลา

Undone - Official Trailer | Prime Video

การเดินทางข้ามเวลาสลับไปมาของ Alma ทำให้เส้นแบ่งระหว่างความจริงและความลวงพร่าเลือนเสียจนมองไม่เห็น ในขณะที่เธอคิดว่าความสามารถนี้เป็นดั่งพลังวิเศษถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น แต่การเติบโตมาอย่างบอบช้ำและแตกสลาย ทำให้คนรอบข้างตั้งคำถามกับสิ่งที่เธอทำ และทุกครั้งที่พวกเขามองมา ก็พบเพียงหญิงสาวผู้เผชิญหน้ากับความเจ็บป่วยทางใจที่ไร้การรักษาเยียวยา

ความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้คือ ‘งานภาพ’ ที่ใช้เทคนิคแบบโรโตสโคป (rotoscoping) คือ การถ่ายทำด้วยนักแสดงจริง และวาดภาพตามต้นฉบับฟิล์มทีละเฟรมในภายหลัง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ชมรู้สึกเสมือนก้าวข้ามระหว่างความจริงและความลวงไปพร้อมกับความสับสนในจิตใจของตัวละคร เป็นอีกหนึ่งผลงานคุณภาพที่อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง

Good Omens (2019-2022)

แนะนำโดย BROTHER OOD

Good Omens เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ปีศาจ Crowley (รับบทโดย David Tennant) และ เทวดา Aziraphale (รับบทโดย Michael Sheen) ที่รับหน้าที่ฝั่งตรงข้ามกันมานานจนกลับมาสนิทกัน มาถึงปัจจุบัน Anti-Christ ได้เกิดขึ้นมาจะนำมาด้วยวันสิ้นโลก ทั้งสองที่หลงรักการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเหล่ามนุษย์จึงตัดสินใจร่วมมือกันไม่ให้เกิด Armageddon ขึ้น!!

ซีรีส์เรื่องนี้สร้างจากนิยายที่ Neil Gaiman เขียนร่วมกับ Sir Terry Pratchet (นักเขียนนิยายชุด Discworld ที่เสียชีวิตไปในปี 2015) และซีรีส์เองก็ได้ Gaiman มาเขียนบทและคุมการสร้าง ทำให้คงโทนของต้นฉบับไว้ได้ ซีรีส์มีโทน Fantasy ขำขันแบบอังกฤษที่จะ surreal นิดๆ แบบ Monty Python ที่จะพาคนดูไปเจอสิ่งสุดแปลกในเหตุการณ์ที่ธรรมดาสุดๆ

Good Omens - Official Teaser | Prime Video

ตัวละครนำสองตัวน่ารัก (และน่าจิ้น) มากๆ Aziraphale (รับบทโดย Michael Sheen) กับ Crowley (รับบทโดย David Tennant) นั้นต่างกันสุดขั้ว โดยเทวดาของเรารักอาหารอร่อย การแต่งตัวด้วยแฟชั่นเรียบๆแต่ละมุนละไม ส่วนปีศาจสุดเท่ห์มีมาดอย่างกับร้อคสตาร์และสนุกไปกับการแกล้งมนุษย์ แต่ความต่างของพวกเขาก็นำมาซึ่งความสมดุลให้กันและกัน เหมือนคนนึงเป็นหยิน และ อีกคนเป็นหยาง และทำให้เราไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเขาได้กลายเป็นเพื่อนรักกันจริงๆแบบไม่รู้ตัว จนคนดูรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่สองคนนี้เข้าซีนด้วยกัน

แต่เสน่ห์อีกส่วนที่สำคัญของซีรีส์คือ World Building ของซีรี่ส์ ที่เราได้เห็น โลก สวรรค์ และ นรก และการทำงานของพวกเขาในรูปแบบที่ทันสมัยและคุ้นเคย ในขณะเดียวกันก็ดูเหนือธรรมชาติ อ้างอิงเรื่องราวความเชื่อในไบเบิ้ลและศาสนาคริส ที่คนคุ้นเคยกับเรื่องราวเหล่านั้นจะได้ความสนุกไปอีกขั้น แต่คนที่ไม่เข้าใจก็สามารถตามเรื่องได้  

นอกจากนี้ยังมีดารารับเชิญตรึม เช่น Jon Hamm จาก Madman ในบทหัวหน้าเทวดา (Gabriel), Michael McKean จาก better call Saul ในบทนักล่าแม่มด Shadwell และ Frances Mcdormand (Nomadland) เป็นผู้ให้เสียงพระเจ้า เราแนะนำสุดๆ เพราะมันสนุกมาก มี 6 ตอนเท่านั้น และสำหรับซีซั่นสองก็ถามทำเสร็จแล้วด้วย

Modern Love (2019- )

แนะนำโดย onlymyfavgirls

have you ever been in love?

Modern Love - Official Trailer | Prime Video

เพราะคำจำกัดความของความรัก ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความรักในเชิงโรแมนติกแค่เพียงอย่างเดียว ซีรีส์ Modern Love จาก John Carney (Once, Sing Street) ที่หยิบเอาคอลัมน์รายสัปดาห์ในชื่อเดียวกันของ The New York Times มาร้อยเรียงต่อกันเป็นซีรีส์จบในตอน โดยจะพาทุกคนไปสัมผัสกับความรักในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรักในเชิงโรแมนติก ความรักภายในครอบครัว ความรักระหว่างเพื่อน ความรักต่อคนแปลกหน้า ไปจนถึงการรักตัวเองในทุกๆ จังหวะชีวิต และพร้อมโอบกอดคุณในทุกๆ ตอนที่ได้รับชม

ในซีซั่นแรก จะอยู่ในพื้นที่เมืองนิวยอร์ก หลากหลายอาชีพ ในช่วงวัยที่แตกต่างกันออกไป และในซีซั่นที่สอง ก็จะเริ่มท่องไปยังเมืองต่างๆ รอบโลก ซึ่งซีรีส์ชุดนี้ก็ได้นักแสดงมากฝีมือมาร่วมแสดง อย่างในซีซั่นแรกก็จะมีทั้ง Cristin Milioti, Catherine Keener, Dev Patel, Anne Hathaway, Sofia Boutella, Julia Garner, Andrew Scott, Olivia Cooke เป็นต้น ในซีซั่นที่สองก็จะมีทั้ง Minnie Driver, Zoë Carroll Chao, Lucy Boynton, Kit Harington, Jack Reynor, Dominique Fishback, Isaac Powell, Lulu Wilson, Garrett Hedlund, Sophie Okonedo, Tobias Menzies เป็นต้น

นอกจากเนื้อเรื่องและนักแสดงแล้ว ซีรีส์ Modern Love ก็ยังโดดเด่นในด้านของเพลงประกอบอีกด้วย ที่ได้ Gary Clark มาทำเพลงประกอบให้กับเรื่องนี้ และในบางเอพิโสด John Carney ก็มาร่วมเขียนด้วยเช่นกัน

Modern Love soundtrack: Season 1, Season 2

นอกจากนี้แล้ว ก็ยังปังไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ เพราะหลายประเทศก็หยิบนำไปสร้างต่ออีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Modern Love Mumbai, Modern Love Hyderabad, Modern Love Tokyo, Modern Love Amsterdam

Season 1 Recap | Modern Love | Prime Video

“บางทีเราก็รู้ตัวว่ารักแท้แบบบริสุทธิ์นั้นมีหลายเป้าหมายในชีวิต ไม่ใช่แค่การสร้างเด็กเพื่อให้เกิดมาบนโลก หรือความโรแมนติก หรือเนื้อคู่ หรือการเป็นเพื่อนคู่คิดตลอดชีวิต ความรักที่เรามีในอดีต ที่ไม่เคยจบสิ้น ไม่เคยถูกทดสอบ ความรักที่สาบสูญ มันดูง่ายดาย ไร้เดียงสา สำหรับคนที่เลือกจะลงหลักปักฐาน แต่ที่จริงมันคือสิ่งที่เข้มข้นที่สุด และบริสุทธิ์ที่สุด”

Modern Love — When Cupid is a Prying Journalist

Outer Range (2022- )

แนะนำโดย BROTHER OOD

Outer Range ซีรีส์แนวดราม่า Sci-Fi กลิ่นอายเซอร์เรียล ลึกลับ เข้มข้นดุดัน ขายการแสดงฝีมือชั้นดี นำโดย จอช โบรลิน, อิโมเจน พูทส์, ลิลี่ เทย์เลอร์, วิล แพ็ทตัน, โนอาร์ รีด ร่วมด้วยคนอื่นๆ อีกมากมาย และพึ่งจบซีซั่น 1 ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

ซีรีส์ Outer Range จะเล่าเรื่องราวของครอบครัวตระกูลแอ็บบอร์ตเจ้าของฟาร์มที่ดินปศุสัตว์แนวอนุรักษ์นิยม นำโดย “รอยัล แอ็บบอร์ต” (รับบทโดย จอช โบรลิน) ชายผู้ไร้ศรัทธาในพระเจ้าและจำอดีตของตัวเองไม่ได้ ชีวิตเบื้องหลังของเขายังคงเป็นปริศนา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พบรักกับ “เซซิเลีย” สาวผู้มีศรัทธา แต่งงานและสร้างครอบครัวด้วยกันที่พื้นดินแห่งนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง “หลุมประหลาด” ก็โผล่ขึ้นมาบนที่ดินของเขา พร้อมสาวน้อยนักรณรงค์ปริศนา (รับบทโดย อิโมเจน พูทส์) ที่คอยสังเกตการณ์หลุมที่ไร้ก้นบึ้ง ไร้กาลเวลาอันนี้ และเมื่อทั้งสองอย่างปรากฏตัวถูกที่ถูกเวลา เธอและมันกำลังจะทำให้ทุกอย่างที่เขาเคยมีสั่นคลอน

หากใครชอบซีรีส์แนว Neo-Western วิธีชีวิตคาวบอยบนหลังม้า ความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติและความเชื่อ ซีรีส์เรื่องนี้จะพาไปสำรวจวิถีชีวิตของรัฐไวโอมิ่ง ตีแผ่ปัญหาแรงกดดันทางสังคมได้ทุกซอกมุม ผ่านความ Sci-Fi ที่ดูมินิมอล น้อยแต่มาก และในขณะเดียวกันก็น่าหลงใหลและชวนให้ติดตาม เพื่อคอยดูว่า “หลุม” จะสามารถเผยธาตุแท้ในใจคน ความลับดำมือที่ซุกซ่อนอยู่ ความแค้นและรอยบาดหมางในอดีต รวมถึงตัวตนที่แท้จริงของครอบครัวนี้ด้วย ใครที่กำลังมองหารสชาติแบบนี้ เราแนะนำเลย

Paper Girls (2022)

แนะนำโดย onlymyfavgirls

Paper Girls ซีรีส์ไซไฟที่หยิบเอากราฟิกโนเวลในชื่อเดียวกันมาเล่า โดยในเรื่องนี้เกี่ยวกับ เด็กส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้า 4 คน ที่เริ่มต้นทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้น ถัดจากวันฮาโลวีน ที่เต็มไปด้วยเรื่องป่วนๆ ในยามเช้าจากพวกเด็กเกเร ที่เมื่อพวกเขาคิดว่ามันคงจะหมดเรื่องน่าปวดหัวแล้ว แต่ดันกลับมาพัวพันกับสงครามกาลเวลา ทำให้พวกเขาหลุดไปเจอกับตัวเองในอนาคต แน่นอนว่ามันไม่มีใครคาดคิดหรอก ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่นั่นก้เป็นจุดที่ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่คาดคิด ความไม่แน่นอน การค้นหาตัวเอง การทำความรู้จักกับตัวเองให้มากขึ้น และการเลือกที่จะไว้ใจเพื่อนร่วมทาง เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคไปพร้อมๆ กับเพื่อน และกลับไปยังช่วงเวลาที่เหมาะสม

Paper Girls | Official Trailer | Prime Video

หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้พอเป็นเด็กแล้วมันจะน่าเบื่อ แถมยังเป็นเด็กผู้หญิงอีกด้วย แต่บอกได้เลยว่าคุณจะได้หลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างกลับไปอย่างแน่นอน และอีกทั้งในเรื่องของความหลากหลายที่เขาใส่ลงมาในซีรีส์เรื่องนี้ ก็ต้องบอกว่า Prime Video ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เพราะตัวเอกก็จะมีทั้งเอเชีย ผิวดำ ยิว และเควียร์ ที่ตัวซีรีส์ก็ไม่ได้คิดจะยัดเข้ามาเฉยๆ แต่มันมาตั้งแต่กราฟิกโนเวลที่เป็นต้นฉบับของซีรีส์ชุดนี้อีกด้วย

แน่นอนว่าตัวเอกเป็นผู้หญิงทั้งหมด สิ่งที่เขานำเสนอมาก็ไม่พ้นกับเรื่องที่ผู้หญิงต้องเจอ โดยเฉพาะปัญหาประจำเดือน ที่พวกเขาต้องหาทางจัดการกันอย่างจริงจัง เพราะไม่ว่าประจำเดือนมันเลือกที่จะมาในวันที่เราต้องการได้ ราวกับกดปุ่ม แต่มันคิดจะมาก็มา โดยเฉพาะในยุคของเด็กๆ ทั้งสี่คน ที่พวกเขาก็ต้องหาทางจัดการกันเองให้ได้ หรือแม้กระทั่งการค้นหาตัวเอง โดยเฉพาะในฉากโรงหนัง ที่ตัวละครได้พบกับตัวเองในอนาคต และความรู้สึกที่เขากำลังสับสนอยู่ข้างในลึกๆ

สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดเรื่องนี้ ก็สามารถรับชมได้ทาง Prime Video และสามารถติดตามผลงานกราฟิกโนเวลของ Brian K. Vaughan และ Cliff Chiang ได้ทาง Image Comics

A League of Their Own (2022- )

แนะนำโดย Pinot Noir

A League of Their Own ซีรีส์แนวคอมเมดี้-ดราม่า ที่ถูกนำมาเล่าใหม่จากหนังในปี 1992 ที่มีชื่อเดียวกัน “A League of Their Own” มีเค้าโครงจากเรื่องจริงของทีมเบสบอลหญิงในอเมริกา (All American Girls Professional Baseball League: AAGPBL) โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1943 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ผู้ชายวัยทำงานถูกเกณฑ์ไปรบมากขึ้น ส่งผลให้ลีคเบสบอลต้องปิดตัวลง ทางเดียวที่จะทำให้วงการเบสบอลไปต่อได้คือการรวมตัวทีมนักกีฬาเบสบอลผู้หญิงขึ้น เรื่องราวทั้งหมดเล่าผ่านตัวละครหลักอย่าง Carson Shaw แม่บ้านสาวขี้อาย ที่เดินตามความฝันของตัวเองในวินาทีสุดท้าย โดยการตัดสินใจเดินทางมาคัดตัวเป็นนักกีฬาเบสบอลที่แคลิฟอร์เนีย ซึ่งการตัดสินใจมาเข้าร่วมทีมเบสบอลครั้งนี้ ทำให้เธอได้เจอกับมิตรภาพระหว่างเพื่อนในทีม และค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเองที่ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล 

ซีรีส์เรื่องนี้นอกจากจะเอาใจผู้ที่ชื่นชอบกีฬาเบสบอลเป็นพิเศษแล้ว แต่ก็ยังได้นำเสนอเรื่องราวที่มีตัวละครนำหลักที่เป็นผู้หญิงอีกด้วย โดยตัวละครเหล่านี้จะนำพาผู้ชมเข้าไปรับรู้ถึงวงการกีฬาในปี 1943 ที่มองว่าผู้หญิงเล่นกีฬาเป็นเพียงแค่ความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง ไม่ได้มีความสามารถทางด้านกีฬาอย่างจริงจัง นอกจากนี้ตัวซีรีส์ยังได้นำเสนอประเด็นปัญหาเกี่ยวกับคนผิวดำที่ถูกแบ่งแยกชนชั้นและกดทับจากคนขาวในสมัยนั้น รวมไปถึงกลุ่มคน LGBTQ+ ที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ถูกมองว่าแปลกแยก และต้องซ่อนตัวตนของตัวเองจากสังคม เรียกได้ว่าประเด็นต่าง ๆ มากมายได้ถูกยกมาและร้อยเรื่องราวได้อย่างครบถ้วน ผ่านการเล่าเรื่องอย่างมีอารมณ์ขันโดยผู้อำนวยการสร้างอย่าง Abbi Jacobson และ Will Graham อีกทั้งตัวละครผู้หญิงในเรื่องยังมีความแตกต่างในลักษณะนิสัย เชื้อชาติ และรูปร่างหน้าตา ที่จะทำให้คนดูตกหลุมรักได้ไม่ยาก ทำให้ลบภาพจำบิวตี้สแตนดาร์ดของตัวละครผู้หญิงในซีรีส์เรื่องอื่นที่ผ่านมาอีกด้วย

หวังว่าซีรีส์แนวกีฬาอารมณ์ดีอย่าง A League of Their Own จะมอบข้อคิดและพลังที่ดีให้กับผู้ที่มารับชม และได้รับการตอบรับที่ดีจนได้ถ่ายถอดเรื่องราวต่อในซีซั่นต่อไป

A League of Their Own - Official Trailer | Prime Video

Short list บน Prime Video ที่ไม่อยากให้พลาด

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ Prime Video เขาก็ยังขนทัพภาพยนตร์และซีรีส์อีกนับไม่ถ้วนเข้ามาสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้พวกเราได้รับชมกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น James Bond ตั้งแต่ภาคแรก, Mission: Impossible ทั้ง 6 ภาค, จักรวาลโทลคีนอย่าง The Lord of the Rings, The Hobbit และล่าสุดก็คือซีรีส์ The Rings of Power หรือจะเป็นซีรีส์ยุค 2000 ที่ติดท็อปลิสต์สุดฮิต คนดูตลอดกาล อย่าง Supernatural, The Mentalist, Smallville, The Office เป็นต้น เขาก็ขนมาให้ได้รับชมกันเพียบ บอกได้เลยว่า Prime Video เขาไม่พลาดอย่างแน่นอน

นอกจากนี้แล้ว The Noize Team ก็ยังขอแนะนำลิสต์น่าสนใจของซีรีส์ ภาพยนตร์ และสารคดีบน Prime Video ให้คุณได้รับชมกันด้วย บอกเลยว่าต้องจัดแล้วล่ะ

  • American Gods
  • Everybody’s Talking About Jamie (HIGHLY RECOMMENDED)
  • Invincible
  • Little Fires Everywhere
  • My Name is Pauli Murray
  • Reacher
  • Star Trek: Lower Decks
  • The Boys
  • The Boys Presents: Diabolical (การ์ตูนแก๊กจากซีรีส์ The Boys)
  • The Marvelous Mrs. Maisel
  • The Report
  • The Wheel of Time
  • Tom Clancy’s Jack Ryan
  • Truth Seekers
Previous

ถักทอผืนป่าสู่ Where the Crawdads Sing

ระวังคำสาปแช่ง จะแย่งร่างคุณไป “A BANQUET สาปร่างนรก”

Next