Jenna Ortega และ Christina Ricci สองผู้รับบท Wednesday ชวนคุยเกี่ยวกับการทำงานและลุคใหม่ของเวนส์เดย์

| |

เมื่อ Christina Ricci และ Jenna Ortega ผู้รับบท Wednesday Addams แห่งสองยุค จากหนังใหญ่ และฉบับซีรีส์ที่กำลังจะเข้าฉายทาง Netflix พวกเขาก็ได้คุยกันผ่านโทรศัพท์กับ Interview Magazine เกี่ยวกับตัวละคร Wednesday ด้วยกัน ซึ่งตัวของคริสติน่าเองก็ได้กลับมาเป็น cameo ในซีรีส์ชุดนี้ในบท Ms. Thornhill คุณครูในโรงเรียนเนเวอร์มอร์ อะคาเดมี อีกด้วย แน่นอนว่าเมื่อผู้รับบทเวนส์เดย์ทั้งสองยุคโคจรมาเจอกัน พวกเขาก็มีเรื่องให้คุยกันมากมาย โดยเฉพาะกับการมาร่วมงานกันในซีรีส์ชุดนี้จากทาง Netflix ที่จะเข้าฉายในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้

กว่าจะมาเป็น Wednesday ของ Jenna Ortega

“ฉันก็พอจะรู้ข่าวอยู่บ้างนะ แล้วก็ได้รับอีเมลแจ้งว่า Tim Burton อยากจะพบกับฉันสำหรับบทนี้ เขาอยากให้ฉันมาลองอ่านบทแล้วก็พูดคุยกัน เอาจริง ฉันก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้นนะเพราะฉันไม่อยากถ่ายซีรีส์อีกแล้ว ฉันพยายามที่จะเข้าสู่วงการภาพยนตร์มาระยะหนึ่งแล้วด้วย แต่ว่าคุณก็ไม่สามารถพลาดโอกาสที่จะได้คุยกับคนอย่างทิมได้” เจนน่าบอก เธอเองก็อยู่ในแวดวงซีรีส์มาตั้งแต่เริ่มต้นการแสดง ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์เรื่อง Jane the Virgin ในบทเจนตอนเด็ก หรือจะเป็นเรื่อง Stuck in the Middle, Elena of Avalor ซีรีส์จาก Disney Channel ก่อนจะเข้าไปสู่ผลงานเมนสตรีมในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะล่าสุดในเรื่อง The Fallout ทาง HBO Max, Scream 5 และภาพยนตร์เรื่อง X “แล้วฉันก็เพิ่งถ่ายมาตลอดทั้งคืน (ตอนนั้นเธอกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง X ของ Ti West เมื่อช่วงฤดูร้อนปี 2020) หน้าของฉันเต็มไปด้วยรอยกรีดแล้วก็อวัยวะเทียมทั่วหน้าเลย แล้วฉันคุยโทรศัพท์กับทิม แล้วเขาก็หัวเราะ เราคุยกันไปเรื่อยๆ และในที่สุดฉันก็พบว่า นี่มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในนี้ แล้วฉันก็คิดว่า ฉันเซ็นสัญญาประมาณ 4-5 เดือนถัดมา”

ซึ่งคอนเซปต์ของซีรีส์ Wednesday ที่เจนน่าได้รับมาจากทิม เบอร์ตัน ก็คือ “เวนส์เดย์จะไปอยู่โรงเรียนประจำ แล้วเธอก็ก่อเรื่อง เหมือนกับ Nancy Drew ในแง่ที่ว่าเธอมีความลึกลับ และกำลังทำตัวเป็นนักสืบ เธอก็เข้าไปเรียนในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยคนที่มีพลังพิเศษ แต่เธอก็ยังคงเป็นเด็กนอกคอกท่ามกลางฝูงเด็กนอกคอกแบบนั้น” ซึ่งมันก็จะแตกต่างจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย “มันแตกต่างมากนะ” เจนน่าบอก “แต่ฉันแค่จะบอกว่าคุณคือคนที่คนอื่นมองว่าเป็นเวนส์เดย์ และนั่นมันคึอความจริง ฉันรู้สึกว่าบทนี้มันทำให้ชวนนึกถึงเวนส์เดย์ยุค 90 มากๆ มันสำคัญมากสำหรับฉันที่ไม่ได้ไปรื้อตัวละครของคุณออกมา และมันก็แค่แตกต่างจากเดิม อีกอย่างก็คือ เราเห็นเวนส์เดย์ตอนอายุ 5 ขวบ 10 ขวบ แล้วพอมีคนบอกว่าเรื่องมันดาร์กและบิดเบี้ยวจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและความไร้เดียงสา ซึ่งเป็นแง่มุมของเด็ก มันจะแตกต่างไปเล็กน้อยเมื่อคุณโตขึ้นและกลายเป็นวัยรุ่น คุณไม่ต้องการให้เธอดูน่ารังเกียจ”

คริสติน่าเองก็บอกเหมือนกันว่า มันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อกลับไปทำ Addams Family ภาคสอง (Addams Family Values ปี 1993) โน้ตที่มาจากตอนซ้อมก็คือ ตอนนี้เธอยังเป็นวัยรุ่น มันฟังดูน่ารังเกียจและไร้สาระ ฉันอยากจะถามเธอนะ เพราะว่าฉันเจอตัวละครแบบนี้มา บางครั้ง เมื่อมันถูกเขียนขึ้นแบบสุดโต่ง มันก็ยากที่จะถ่ายทอดเรื่องราวแบบเดิมๆ ไปด้วย เพราะปฏิกิริยาทางอารมณ์ มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนคาดหวังเอาไว้ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องรับมือกับผู้กำกับหลายๆ คน และแต่ละคนก็มีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป หลายครั้งกับซีรีส์ เมื่อคุณพบตัวละครตัวนี้ในซีซั่นแรกแล้ว มันก็คงจะยากสำหรับตัวละครแบบนี้เหมือนกัน”

Wednesday Netflix School
Students of Nevermore Academy in Wednesday
COURTESY OF NETFLIX

ความเครียดจากการทำงานในกอง Wednesday

“นี่อาจจะเป็นงานที่ overwhelming ที่สุดที่เคยมีมา” – Jenna Ortega

ในการทำงานกับผู้กำกับหลายๆ คน แน่นอนว่ามันทำให้นักแสดงเครียดด้วยเช่นกัน “ทิมไม่ได้กำกับเองทุกตอน” เจนน่าบอก “เราก็มีเปลี่ยนจากทิมไปผู้กำกับคนอื่น แล้วก็กลับมาหาทิม แล้วก็ไปยังผู้กำกับคนอื่นต่อ ฉันรู้สึกว่าทุกคนต้องการสิ่งที่แตกต่างจากเธอ ฉันจำได้ว่าทิมไม่ต้องการให้ฉันแสดงสีหน้าหรืออารมณ์ใดๆ เลย เขาอยากที่จะได้อะไรที่มันเรียบไปเลย ซึ่งฉันเข้าใจได้ มันเป็นเรื่องตลกและยอดเยี่ยม ยกเว้นเมื่อคุณพยายามที่จะขยับพล็อตเรื่อง และเวนส์เดย์ก็มีอยู่ในทุกๆ ฉากเลย มีการต่อสู้แบบนั้นอยู่ เพราะฉันรู้สึกว่าผู้คนไม่เชื่อใจฉันเสมอเมื่อฉันกำลังสร้างเส้นทางของฉัน ในแง่ที่แบบ ‘โอเค นี้คือเรื่องราวของเธอนะ นี่คือที่ที่เธอแสดงอารมณ์นะ’ แล้วเราก็กระโดดเข้าสู่ตอนแรกและเกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย คุณต้องแนะนำเรื่องราวทั้งหมด ระหว่างนั้น ฉันก็ยังคงหาจุดยืนของตัวเอง เรียนเชลโล่ ยิงธนู แล้วก็นู่นนี่นั่น”

เจนน่ายังบอกต่อด้วยว่า “ฉันโทรหาพ่อแม่ทุกคนด้วยความแพนิคเลยนะ เพราะว่าฉันรู้สึกว่ามันแตกต่างจากงานที่ฉันเคยทำมาก่อนที่ฉันมีเวลาเข้าไปทำความรู้จึกตัวละครนั้น ฉันไปยังโรมาเนีย เราเริ่มฝึกและถ่ายทำกันเลย เราไม่มีเวลาซ้อมจริงๆ เท่าไหร่ ฉันจำได้ว่ามันเครียดและสับสนมาก ฉันทำดีที่สุดแล้ว แต่นั่นก็อาจจะเป็นงานที่มันท่วมท้น (overwhelming) ที่สุดที่เคยมีมา”

คริสติน่าเองก็เสริมว่า เมื่อมันเป็นไฮคอนเซปต์ แต่คนอื่นๆ ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดหรือการแสดงออกมาของแนวคิดนั้น มันก็อาจจะทำให้สับสนได้ “ฉันก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการมันอย่างไร” คริสติน่าบอก “แล้วเธอล่ะ มีวิธีป้องกันตัวเองจากสิ่งที่อาจจะทำให้คุณไม่เป็นกลางบ้างไหม”

“พูดตามตรงนะ ไม่เลย อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนแรก มันไม่มีทางที่จะมีอะไรที่มากจนเกินไปเลย” เจนน่าบอก “ฉันแบบหลงทางแล้วก็สับสนไปหมด ปกติแล้วฉันก็ไม่มีปัญหาในการใช้เสียงเพื่อเสนอสิ่งต่างๆ แต่พออยู่ในนั้น ฉันจำได้ว่าฉันรู้สึกพ่ายแพ้เลยล่ะ หลังจากเดือนแรก เพราะงั้น ฉันคิดว่าบางสิ่งที่วิเศษจริงๆ ที่ออกมาจากซีรีส์เรื่องนี้ ก็คือการที่ฉันสามารถใช้เสียงของตัวเองได้อย่างแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมาก่อน ฉันรู้สึกดีขึ้นมากๆ เกี่ยวกับการซื่อสัตย์ต่อความคิดเห็นและความคิดของตัวเอง ซึ่งฉันรู้สึกขอบคุณมากๆ”

เธอยังบอกต่อด้วยว่า “มันเหมือนกับการต่อสู้เลยนะ และเมื่อคุณมาถึงจุดที่แบบ คุณรักและเคารพตัวละครมากพอ สิ่งที่คุณอยากทำก็คือปกป้องพวกเขา อีกวิธีหนึ่งที่พวกเขาพิตช์ซีรีส์ให้กับฉันก็คือ ‘เรากำลังพยายามทำให้เป็นมนุษย์ และทำให้เธอมีความสัมภัรฑ์ที่ดี แต่นี่ไม่ใช่แบบการ์ตูนนะ’ แต่มันก็เป็น ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า บางครั้ง ในความพยายามที่ทำให้เธอเป็นเด็กผู้หญิง พวกเขาก็พยายามทำให้เธอเป็นเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ ฉันจำได้ว่าทิมคุยกับฉันในเรื่องนี้เหมือนกัน เขาวิเศษมากๆ เขาโทรหาฉันที่รถเทรลเลอร์ของเขาในตอนเช้าแล้วก็บอกว่า ‘คุณไม่สบายใจที่จะพูดอะไร คุณอยากที่จะพูดอะไร’ แล้วเมื่อคุณมีคนที่มทำงานร่วมกันและซัพพอร์กันอย่างทิม มันก็ยิ่งทำให้ง่ายมากยิ่งขึ้น มีคนสองสามคนแบบนี้ในกองถ่าย ซึ่งเป็นคนสำคัญของฉันอย่างแน่นอน” ซึ่งคริสติน่าเองก็เห็นด้วย “ทิมเป็นคนที่น่าทึ่งมากจริงๆ ฉันรู้สึกเหมือนได้ร่วมงานกับเขาเสมอ ฉันจะทำทุกอย่างที่เขาบอก เพราะว่าคุณคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ควรทำ มันเต็มไปด้วยความไว้วางใจมากมาย เพราะว่าเขาเคารพและไว้วางใจคุณ แน่นอน เขาคือ ทิม เบอร์ตัน และทุกอย่างที่เขาทำก็คือผงทองคำวิเศษ”

wednesday addams netflix
Wednesday
COURTESY OF NETFLIX

ลุคใหม่ของเวนส์เดย์

แล้วในการสร้างลุคใหม่ให้กับเวนส์เดย์ ทุกคนดูจะหมกมุ่นอยู่กับความจริงที่ว่าเธอไว้ผมหน้าม้า คริสติน่าเองก็ได้ถามคำถามนี้เผื่อทุกคนแล้ว ตัวของเจนน่าเองก็ได้บอกว่าเธอได้รับข้อมูลนี้เหมือนกันก่อนถ่ายทำ แล้วก็เดินทางไปลอนดอนเพื่อเทสต์ทรงผมและการแต่งหน้าสำหรับซีรีส์ด้วย “เราพยายามทพทุกอย่างเพราะว่าทิมอยากจะให้เธอดูแตกต่างจากเดิม แม้กระทั่งเปียจิ๋ว ก็ให้เป็นเปียที่ยาวและหนาเป็นพิเศษ เราลองใช้เส้นขนสีเทาด้วย แล้วสำหรับผมหน้าม้า ฉันหวังว่าเขาจะเก็บมันไว้ แล้วก็ไม่คิดว่าทิมจะชอบมันมากด้วย มันทั้งสั้น แล้วก็เป็นแฟชั่นเหมือนใน Fargo ที่มันดูโรคจิตหน่อยๆ มันแปลกนะ แต่เขาเห็นยางอย่างแล้วก็บอกว่า ‘ลองเล่นกันต่อหน่อย’ แล้วเขาก็บอกว่า ‘ฉันชอบให้มันดูปิดๆ นะ’ ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะคลิปอิน ฉันก็เลยบอกช่างตัดผมว่าให้ตัดผมหน้าม้าให้กับฉัน เพราะฉันคิดว่ากิ๊ฟติดผมมันจะต้องกวนใจเขาแน่นอน และถ้าฉันอยากที่จะไว้ยาว ฉันก็จะไว้ยาว แล้วพอเราลองตัดผมหน้าม้า ทิมก็ชอบมันเลยล่ะ”

“ตอนฉันเห็นภาพของเธอแล้วฉันก็แบบ ‘ว้าว นี่เป็นการตีความที่ทันสมัยและยอดเยี่ยมมากเลย'” คริสติน่าบอก “มันเป็นความจริงต่อจิตวิญญาณของตัวละคร ฉันไม่ได้เป็นคนสร้างตัวละครนี้นะ เพราะงั้น ฉันก็มักจะแบบ ‘เธอเป็นการ์ตูนแล้วก็รายการทีวี เธอไม่ใช่เช็คสเปียร์ แต่เป็นแนวความคิดเดียวกัน เรายังคงทำซ้ำสิ่งนั้นอยู่'”

“นั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังพยายามทำอยู่ให้เธอดูทันสมัยมากขึ้น” เจนน่าบอก “บางครั้งฉันก็ใส่เสื้อฮู้ดด้วยนะ มันแปลกมากเลย” คริสติน่าเองก็เสริมด้วยว่า “คุณใส่กางเกงด้วย แล้วฉันก็แบบ ‘พระเจ้า กางเกงมันดีมากเลย’ แล้วคุณก็สวมรองเท้า creepers ด้วย” เจนน่าก็บอกว่า “ใช่ๆ แต่บางครั้งคุณก็คิดถึงชุดกระโปรงนะ คุณจะแบบ ‘เราหลงทางไปไกลจากพล็อตเรื่องเดิมรึเปล่า’ แต่ก็นั่นแหละ ฉันเชื่อในสิ่งที่ทิมพูด และ Colleen Atwood (คอสตูมดีไซเนอร์ขอซีรีส์ Wednesday) ด้วย”

สิ่งที่ดีที่สุดในการทำซีรีส์เรื่องนี้

“สิ่งที่ดีที่สุดก็คือความรู้ที่ฉันได้รับจากการทำงานในกองถ่าย แล้วก็ประสบการณ์ด้วย เราอยู่ที่นั่นประมาณ 7-8 เดือนในโรมาเนีย แล้วฉันก็อยู่คนเเดียว” เจนน่าบอก “มันทั้งมีโควิด ผู้คนล้มป่วยด้วยโควิด แล้วนักแสดงทั้งหมดก็ไม่เคยที่จะได้ใช้น้ำร้อนเลย หม้อน้ำร้อนทั้งสองในอพาร์ตเมนต์ของฉันพัง ฉันก็เลยอาบน้ำเย็นอยู่ตลอด ทุกอย่างถูกผิดเพราะคุณทำอะไรไม่ได้ รู้สึกเหมือนเรารอดจากอะไรบางอย่าง ตอนนี้ฉันสำหรับสวมมันเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฉันไม่สามารถเปลี่ยนเทียบสิ่งนั้นกับอย่างอื่นได้เลย”

คริสติน่าก็เสริมต่อเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เธอได้พบภายในกองถ่ายด้วยเช่นกัน “ฉันยังจำเช้าวันนั้นตอนตีสี่ได้อยู่เลย ตอนที่ทุกคนอยู่ในห้องรับรองก่อนออกจากโรมาเนีย พวกเธอหมดแรงมาก ส่วนฉันก็กำลังตื่นตระหนก เพราะฉันมั่นใจว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะโดนระเบิดที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ เรา และเราทุกคนจะต้องตาย ฉันจำความรู้สึกนั้นได้ เหมือนเรากำลังจะหลบหนี และเราหนีออกไปได้” เจนน่าก็เสริมต่อว่า “ใช่ๆ ฉันคิดว่าฉันมีรอยยิ้มที่ใหญ่ที่สุดบนใบหน้านะ ไม่ได้บอกว่าโรมาเนียไม่ได้น่ารักหรือว่าไม่วิเศษนะ “ใช่ๆ ฉันคิดว่าฉันมีรอยยิ้มที่ใหญ่ที่สุดบนใบหน้านะ ไม่ได้บอกว่าโรมาเนียไม่ได้น่ารักหรือว่าไม่วิเศษนะ ฉันได้เจอกับคนโปรดที่ฉันยังคงติดต่อด้วย” คริสติน่าเสริมต่อด้วยว่า “ที่นั่นสวยจริงๆ แต่ว่ามันก็เยอะไปหมดเลยล่ะ”

Wednesday เข้าฉายทาง Netflix วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้

Previous

Warrior Nun ซีซั่นสอง กับความสัมพันธ์ระหว่างเอวาและเบียทริซ

7 เหตุผลที่คุณควรดู Warrior Nun ทาง Netflix

Next