Bottoms: “ฉันเหมือนแม่ไปส่งลูกๆ เข้าแคมป์ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเข้าค่ายฤดูร้อนจริงๆ”

| |

ถ้าหากถามถึงภาพยนตร์แซฟฟิคแห่งปี 2023 หลายๆ คนคงจะนึกถึง Bottoms เป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน เพราะการกลับมาพบกันระหว่างผู้กำกับอย่าง Emma Seligman และนักแสดงคู่บุญอย่าง Rachel Sennott ที่เคยร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง Shiva Baby ที่ได้คะแนน Rotten Tomatoes ถึง 96% และมีจำนวนผู้ชมที่รับชมมากที่สุดของ Mubi ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ล่าสุดในภาพยนตร์ Bottoms พวกเขาก็ได้ร่วมกันเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกัน

หลังจากบทความก่อนที่ชวนอ่านเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว เรื่องราวต่อมาที่เราอยากจะพาทุกคนไปดูกันก็คือในส่วนของเหล่านักแสดงและตัวละครต่างๆ ที่น่าสนใจ บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดสุดๆ 

ไม่มีใครดี 100% มีแค่ว่า ใครทำให้ตัวละครเป็นที่น่าสนใจ

แน่นอนว่าตัวละครในเรื่องนี้ต่างไม่ได้ดี 100% โดยเฉพาะในวัยมัธยมด้วย ที่แต่ละคนต่างพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ยังผิดที่ผิดทางกันอยู่บ้าง แล้วอะไรคือเส้นแบ่งระหว่างความตลกกับความน่ารังเกียจล่ะ เอ็มม่าได้บอกว่า “เคล็ดลับคือการพยายามทำให้ตัวละครมันดูจับต้องได้บ้าง คือมันไม่ใช่สัญชาตญาณของเราในตอนแรก แต่ถ้าคุณสนใจตัวละครนั้น คุณจะรับความน่าขยะแขยงของพวกเขาได้มากขึ้นอีกหน่อย ฉันคิดว่านั่นเป็นความจริงนะที่หนังคอเมดี้หลายๆ เรื่องที่เคยสร้างมาก่อนแล้ว โดยเฉพาะตัวละครที่มีความตื้นเขินและมีความเห็นแก่ตัวนะ”

เธอยังพูดถึงตัวละครอย่าง Seth ในภาพยนตร์เรื่อง Superbad ที่รับบทโดย Jonah Hill ด้วยว่า “เขาเป็นคนที่แย่มาก แต่คุณก็ยังคงสนใจเขาอยู่ สิ่งที่ช่วยเราจัดการกับ PJ ในเรื่องนี้คือการพยายามเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครของเธอ ในขณะเดียวกัน ก็ช็อกและรำคาญกับการตัดสินใจกับตัวเลือกของเธอด้วย”

ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการที่จะเล่าให้เห็นว่า “ทำอย่างไรที่ทั้ง PJ และ Josie จะโน้มน้าวให้เพื่อนๆ ในโรงเรียน เข้าร่วมชมรมต่อสู้ของพวกเขา เอ้ย กลุ่มเสริมสร้างพลังหญิง พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นความเห็นแก่ตัว ความโหดร้าย และความน่ารังเกียจของตัวละครเหล่านี้ และเราอยากที่จะปล่อยให้พวกเขาทำตัวเหลวแหลกแบบนั้นด้วยจริงๆ”

BOTTOMS | What Is Bottoms? – Behind The Scenes

ทำไมถึงเลือกนักแสดงวัย 20 กว่า มารับบทวัยรุ่นใน Bottoms

เหตุผลง่ายๆ ที่ Emma Seligman คัดเลือกนักแสดงในช่วงวัย 20 กว่าๆ มารับบทวัยรุ่นในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเพราะว่า “ฉันอยากให้เรเชลและอาโยอยู่ในนี้ เพราะงั้น เราก็เลยสร้างมันขึ้นมาเพื่อสิ่งนี้” 

เอ็มม่าพบกับอาโยตั้งแต่เรียนที่ NYU ด้วยกัน “ฉันพบกับอาโยในงานปาร์ตี้ก่อนฉันเจอกับเรเชลซะอีก ฉันแบบ ‘ถ้าฉันสร้างหนังไฮสคูล ได้เธอมาคงจะเพอร์เฟคสุดๆ’ อย่างน้อยในตอนนั้นอะนะ คือเธอดูงุ่มง่าม บ้าๆ บอๆ เนิร์ดด้วย แต่ก็น่ารักดี หลังจากนั้นฉันก็พบกับเรเชล แล้วก็พบว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกัน แล้วเราก็ทำอะไรสนุกๆ ด้วยกันมาเยอะเลย”

และเมื่อเอ็มม่าได้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ เธอก็ได้ชวนให้ทั้งเรเชลและอาโยมาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ “ฉันอยากให้เรเชลและอาโยอยู่ในนี้ เพราะงั้น เราก็เลยสร้างมันขึ้นมาเพื่อสิ่งนี้ แล้วฉันคิดว่ามันได้ผลนะ ฉันโตมากับการดูหนังวัยรุ่นและซีรีส์ที่ทุกคนอยู่ในวัย 20 กว่าหมดเลย และมันทำให้ฉันหงุดหงิดมาก แต่ฉันคิดว่า เพราะเราหนังเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในโลกนี้ ฉันก็เลยปล่อยให้ตัวเองปล่อยมันไปได้ อย่าง Wet Hot American Summer กับ The To-Do List ก็มีนักแสดงอายุ 20-30 ปีด้วยเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องตลกแบบตั้งใจมากเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นในหนัง” และแน่นอนว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีนักแสดงอย่าง Nick Galitzine ที่รับบทเป็น เจฟฟ์ เขาอายุมากที่สุดในกลุ่ม นั่นก็คืออายุ 27 ปี ระหว่างการถ่ายทำนั่นเอง

Jeff and his team = Ken in Mojo Dojo Casa House

ถ้าหากคุณรับชม Barbie ผลงานของ Greta Gerwig แล้วนั้น ก็อาจจะรู้สึกว่าเจฟฟ์และหนุ่มๆ ในทีมอเมริกันฟุตบอลของเขาคือเหล่าเคนในยุค Mojo Dojo Casa House อย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งเอ็มม่าเองก็เห็นด้วย เธอบอกว่า “คุณต้องการนักแสดงชายที่ถ่อมตัวมากๆ และสามารถสร้างความสนุกสนานให้กับตัวเอง และสามารถรับบทรองจากตัวละครหญิงได้ เพื่อสร้างสีสันให้กับโลกที่เน้นเรื่องราวไปที่ผู้หญิงเป็นหลัก ฉันคิดว่า คนเหล่านั้นทุกคนต่างเข้าใจบทบาทที่พวกเขาต้องแสดงในเรื่องนี้ พวกเขาทั้งตลกและทุ่มเทกับมันอย่างหนักเลยล่ะ”

คุณแม่ส่งลูกๆ เข้าแคมป์ก่อนเริ่มถ่ายทำ

แน่นอนว่าก่อนการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ จำเป็นที่จะต้องมีการฝึกซ้อมการต่อสู้กันเสียก่อน ซึ่งเหล่านักแสดงต้องมาเข้าแคมป์ด้วยกัน ตัวของเอ็มม่า ผู้กำกับเรื่องนี้ได้บอกว่า “ฉันก็หวังว่าจะได้เข้าแคมป์ด้วยนะ คือฉันก็อยู่ที่นั่น เหมือนแม่ไปส่งลูกๆ เข้าแคมป์ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเข้าค่ายฤดูร้อนจริงๆ ฉันแวะมาหาพวกเขาตอนหมดวัน แล้วพวกเขาก็โชว์สิ่งที่พวกเขาได้มาในแต่ละวันให้ฉันดู” แน่นอนว่านั่นคือการเตรียมตัวขั้นพื้นฐานสำหรับการเข้าสู่ชมรมการต่อสู้ของเหล่า fight club ซึ่งสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้นั้นก็คือ “ส่วนใหญ่คือการเรียนรู้วิธีแกล้งทำเป็นถูกโจมตี แต่พวกเขาก็ทำได้ดีจนเกือบจะดีเกินไป ฉันแบบ ‘เดี๋ยวนะ ฉันยังอยากให้พวกสาวๆ ดูแย่ตอนทะเลาะกันในตอนเริ่มหนังนะ’ คือเราจำเป็นที่จะต้องเดินไปตามการเดินทางของพวกเขานะ”

Bottoms เข้าฉาย 21 พฤศจิกายนนี้ ทาง Prime Video Thailand พร้อมซับไทย

BOTTOMS | Official Red Band Trailer

Sources:

  • https://www.hollywoodreporter.com/movies/movie-features/emma-seligman-bottoms-lgbtq-roles-1235514606/ 
  • https://www.indiewire.com/features/interviews/rachel-sennott-emma-seligman-interview-bottoms-1234898206/
  • https://www.nylon.com/life/emma-seligman-bottoms-movie-director-shiva-baby 
  • https://www.vanityfair.com/hollywood/2023/08/emma-seligman-bottoms-interview 
Previous

Laufey Nominated For GRAMMY, Shares Spotify Single “Winter Wonderland”

NERIAH Breakthrough Artist Drops Deluxe Edition Of Debut Album ‘Cause of Death’

Next