อีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตการแสดงของ Tessa Thompson กับการสวมวิญญาณเป็น Hedda ในภาพยนตร์ที่กำกับโดย Nia DaCosta มิตรคู่ใจที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง Little Woods จนมาถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง The Marvels การกลับมาร่วมงานกันในครั้งนี้คือการสร้างสรรค์ตัวละครที่ซับซ้อนและน่าหลงใหลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
Tessa Thompson นักแสดงสาวมากความสามารถที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA ถึงสองครั้งและ Emmy หนึ่งครั้ง มีผลงานที่หลากหลายครอบคลุมแทบทุกแนว ตั้งแต่ภาพยนตร์ดราม่าเข้มข้นอย่าง Selma ไปจนถึงภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Thor: Ragnarök และแฟรนไชส์ Creed รวมถึงผลงานการแสดงบนจอแก้วในซีรีส์ยอดฮิตอย่าง Dear White People และ Westworld แต่สำหรับบทบาท Hedda นี้ ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งใหญ่ที่ทำให้เธอต้องแสดงออกถึงความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์อย่างฉับพลัน ตั้งแต่แรงดึงดูดอันทรงพลัง ความโดดเดี่ยว ไปจนถึงการวางแผนชั่วร้าย
ในการตัดสินใจเลือก เทสซ่า ทอมป์สัน มารับบท เฮดดา นั้น Nia DaCosta ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเผยว่า เธอคือคนที่สามารถเป็นพลังแห่งธรรมชาติที่ไม่เคยพอใจในสิ่งใดได้เลย “เทสซ่าสร้างความประหลาดใจให้ฉันได้เสมอ เพราะเธอไม่เคยหยุดที่จะค้นหาสิ่งใหม่ๆ” Nia DaCosta กล่าว พร้อมเสริมว่า “เหตุผลหนึ่งที่ฉันรักการทำงานกับเธอ คือฉันรู้ว่าไม่ว่าเธอจะเลือกทางไหน เธอจะทำมันได้สมบูรณ์แบบ และมันจะออกมางดงาม”
ด้วยความสามารถในการถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละคร เทสซ่า ทอมป์สัน ได้สร้างสรรค์ Hedda ที่สามารถถูกมองได้หลายแง่มุม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวละครนี้สนุกสนานอย่างมากในการสำรวจ เหมือนที่ Gabrielle Nadig หนึ่งในทีมงานสร้างกล่าวเสริมว่า “Hedda ต้องถ่ายทอดความมั่นใจ เสน่ห์ และความลุ่มหลงในอำนาจอันมืดมิด เทสซ่านำสิ่งเหล่านี้มาทั้งหมด เธอมีเสน่ห์ดึงดูดจนคุณไม่อาจละสายตาได้ แม้ว่าเธอจะกำลังทำเรื่องเลวร้ายก็ตาม”
เทสซ่า ทอมป์สัน เผยว่าเธอเป็นแฟนตัวยงของบทละครเรื่องนี้อยู่แล้วตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น “แม้แต่ตอนนั้น เฮดดาก็ทำให้ฉันคิดถึงเรื่องตัวตนของผู้หญิง เรื่องราวนี้สะท้อนกับยุคสมัยใหม่ เพราะมันพูดถึงว่าเราขีดเส้นกั้นตัวเองไว้ด้วยความคาดหวังทางสังคมอย่างไร” เทสซ่ากล่าวต่อ “แม้ว่าเราอาจจะคิดว่าเราไม่ได้ทำเช่นนั้นมากนักในปี 2025 แต่ความจริงก็คือ ในฐานะมนุษย์ เราหยุดไม่ได้ที่จะกังวลว่าเราคิดว่าเราควรจะเป็นใคร เราคิดว่าเราควรจะรักใคร และเราควรจะประพฤติตนอย่างไร”
เพื่อตีความตัวละครระดับตำนานขึ้นมาใหม่ เทสซ่าจึงใช้วิธีการเข้าถึงตัวละครแบบส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง แต่เพื่อทำความเข้าใจภูมิหลังของบทบาท เธอได้เตรียมตัวอย่างหนักด้วยการดูทุกเวอร์ชันที่เคยมีการสร้างทั้งบนเวทีและภาพยนตร์ ตั้งแต่การแสดงของ Ingrid Bergman, Maggie Smith, Glenda Jackson ไปจนถึง Isabelle Huppert นอกจากนี้ เธอยังได้พบปะกับนักแสดงชาวไอริช Fiona Shaw ซึ่งเธอชื่นชมในบทเฮดดาในต้นยุค 90s และได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมแสดง Nina Hoss ที่เคยรับบทนี้ที่กรุงเบอร์ลิน
“เมื่อคุณก้าวเข้ารับบทบาทที่มีเรื่องราวมากมายอย่าง Hedda คุณจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีที่ยิ่งใหญ่ทันที ดังนั้นมันจึงรู้สึกถูกต้องที่จะเจาะลึกและสำรวจการตีความที่แตกต่างกัน” เทสซ่ากล่าว แต่เธอกลับรู้สึกเป็นอิสระอย่างเต็มที่ในเวอร์ชันนี้ “เพราะมันทำลายโครงสร้างดั้งเดิมของเรื่องราวไปมาก เนียได้เปิดกว้างมันออกไปทั้งหมด ดังนั้นมันจึงแตกต่างไปจากเวอร์ชันอื่นๆ ที่เคยมีมาอย่างสิ้นเชิง”
เมื่อได้ดำดิ่งลงไปในตัวละครอย่างเต็มที่ เทสซ่าก็ได้ค้นพบความเข้าใจดั้งเดิมเกี่ยวกับเรื่องราวภายในของเฮดดา “สิ่งที่ฉันพบว่าน่าสนใจจริงๆ คือ เฮดดามีความปรารถนาในการควบคุมในโลกที่วุ่นวาย และความปรารถนาในอิสรภาพ ซึ่งสองสิ่งนี้ขัดแย้งกันโดยตรง” เทสซ่าสะท้อนให้เห็น “และฉันคิดว่าบางครั้งเมื่อคุณพบว่าตัวเองอยู่ในชีวิตที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ จะมีความปรารถนาอันทรงพลังที่จะทำลายทุกสิ่งให้พังทลายลง”
การทำลายล้างเริ่มต้นขึ้นกับไอลีน อดีตคนรักของเฮดดา ที่ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของเธอ เทสซ่าอธิบายว่าทำไมไอลีนถึงสร้างความขุ่นเคืองให้กับเฮดดาได้อย่างลึกซึ้งว่า “สำหรับเฮดดาแล้ว ไอลีนคือแบบอย่างของผู้หญิงที่กล้าหาญซึ่งไม่แยแสต่อระบบชายเป็นใหญ่ มีความงดงามบางอย่างเกี่ยวกับการเชื่อมโยงของพวกเธอในฐานะผู้หญิงที่ทรงพลังสองคน แต่พวกเธอก็เป็นคู่ที่ดึงเอาสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในกันและกันออกมา และถ้าเฮดดาไม่สามารถมีความสุขได้ เธอก็ไม่ต้องการให้ใครมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอลีน”
สำหรับ ทอม สามีใหม่ของเธอ เฮดดาไม่ได้คาดหวังความปลอบโยนหรือความโรแมนติกใดๆ สิ่งที่เธอต้องการมีเพียงความมั่งคั่งและสถานะทางสังคม ซึ่งมันไม่ได้มาอย่างรวดเร็วพอ “เฮดดารู้ตั้งแต่แรกว่านี่คือการแต่งงานที่อำนวยความสะดวกให้กันและกัน และนั่นก็ดึงดูดใจเพราะการที่เขาไม่ได้ทุ่มเทให้เธอมากเกินไปอาจจะทำให้เธอมีอิสระมากขึ้นในการเป็นตัวของตัวเอง แต่เมื่อกลับมาจากฮันนีมูน เธอก็ต้องอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่หลังนี้ เผชิญหน้ากับการเป็นภรรยาแบบดั้งเดิม และกำแพงก็เริ่มถล่มลงมาทับเธอ” เทสซ่าตั้งสังเกต
ความสุขอย่างหนึ่งสำหรับ Tessa Thompson คือการได้เฝ้าดู Nia DaCosta สร้างเรื่องราวนี้ให้กลายเป็นสนามเด็กเล่นทางภาพยนตร์ของเธอ “สิ่งหนึ่งที่เนียมีอย่างท่วมท้นเสมอคือความชัดเจนในวิสัยทัศน์” เธอกล่าว “ในภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ ฉันได้เห็นเนียเรียนรู้และเติบโต เธอได้ไปดูแลฉากใหญ่ๆ แต่กับ Hedda มันน่าตื่นเต้นที่ได้เห็นเธอกลับมาทำงานอีกครั้งด้วยวิธีที่ลึกซึ้ง มีวิสัยทัศน์ และเป็นสัญชาตญาณในโปรเจกต์ที่เป็นแนวคิดของเธอเองโดยสมบูรณ์”
เทสซ่ากล่าวต่อว่า “คุณสามารถเห็นเนียยิ้มแย้มทุกวันในการถ่ายทำในบ้านที่สวยงามหลังนี้กับทีมนักแสดงที่น่าทึ่ง และอยู่ในจุดสูงสุดของเกมการทำงานของเธอ เธอช่วยเราสร้างจิตวิญญาณของการรวมกลุ่มที่เข้าใจกัน ไว้วางใจกัน และกำลังมุ่งไปสู่สิ่งเดียวกัน”
ด้วยการทำงานร่วมกันของสองคนนี้ การตีความใหม่ในครั้งนี้จึงเป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่าจะสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ได้หรือไม่ และการแสดงอันทรงพลังของ Tessa Thompson จะนำพาเราไปสำรวจความลึกซึ้งของจิตใจตัวละครที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งคนนี้ได้อย่างไรบ้าง
Hedda เตรียมฉาย 29 ตุลาคมนี้ ทาง Prime Video
