John Maus ศิลปิน นักแต่งเพลง และนักวิชาการชาวอเมริกัน เตรียมเปิดตัว Later Than You Think ในวันที่ 26 กันยายนนี้ ภายใต้สังกัด YOUNG ซึ่งหลายคนเตรียมยกให้เป็นงานที่ลึกซึ้งและทรงพลังที่สุดในเส้นทางอาชีพกว่า 20 ปีของ Maus พร้มปล่อยซิงเกิลใหม่ทั้ง “I Hate Antichrist” เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับเพลง “I Hate Antichrist” เป็นงานที่พูดถึงการเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ ในทางจิตวิญญาณ ที่มีตั้งแต่การประท้วง การอธิษฐาน และความเชื่อสุดแหวกแนวเรื่องปีศาจที่มาจากโลกดิจิตัล รวมทั้งการพูดถึงผู้เป็นปฏิปักษ์กับพระคริสตเจ้าที่เริ่มมีมากขึ้น ความหลอกลวง และการพิพากษาครั้งสุดท้ายจะเกิดขึ้นในวันสิ้นโลก ถ่ายทอดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยแรงศรัทธาและความดิบที่เป็นเอกลักษณ์ของ Maus การท่องชื่อเพลงซ้ำ ๆ ให้ดูเป็นเหมือนการสวดมนต์มากกว่าที่จะเป็นบทเพลง
มิวสิกวิดีโออนิเมชั่นกำกับโดย Andrew Norman Wilson ในแต่ละฉากแสดงให้เห็นถึงวัฏจักรของการทำลายล้างตัวเอง จากตัวละคร ผู้นำจอมปลอม เจ้าพ่อเทคโนโลยี พวกคอร์รัปชั่นที่แฝงมาในคราบนักบวช นักการเมือง ผู้นำทหารที่กระหายการทำสงคราม หรือแม้แต่อินฟลูเอนเซอร์ที่นำเสนอเรื่องไม่สร้างสรรค์ พวกเขาต่างพ่ายแพ้ให้กับกระแสของความหลงตัวเอง และความโหดร้ายที่ไม่มีวันหยุดยั้ง ตัวละครเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวร้าย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของโลกที่ติดอยู่ในความป่วยไข้ของตัวเอง และใกล้จะล่มสลาย ในทางตรงกันข้าม แก่นแท้ของเพลงกลับเป็นการต่อต้าน และพูดถึงการเรียกร้องให้มนุษย์ได้แสวงหาวิธีของตัวเองในการพ้นทุกข์อย่างแท้จริง
ส่วนซิงเกิ้ลที่สองอย่าง “Because We Built It” ซึ่งได้พูดถึงการเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางสังคม และสะท้อนถึงความไม่ยุติธรรม เพลงนี้ต่อยอดจากซิงเกิ้ลก่อนหน้าอย่าง “I Hate Antichrist” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเผชิญหน้าทางจิตวิญญาณ และแสงแห่งความหวังของการเริ่มต้นใหม่
Later Than You Think ถูกเขียน บันทึกเสียง และโปรดิวซ์โดย Maus เอง ที่ Ozarks ในรัฐมิสซูรี่ เป็นการเล่าเรื่องผ่าน 16 เพลงที่นำเสนอในมิติที่หลากหลาย ทั้งความเรียบง่ายและความซับซ้อน แก่นแท้ของอัลบั้มนี้คือการยืนยันแนวทางของ Maus ที่มุ่งมั่นในความจริงใจแบบสุดขั้วและความซื่อสัตย์ทางอารมณ์ ท่ามกลางโลกที่เปราะบางและแปลกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ
John Maus อดีตสมาชิกของวงอย่าง Animal Collective, Panda Bear และ Ariel Pink’s Haunted Graffiti ในฐานะศิลปินเดี่ยว จบการศึกษาด้านดนตรีทดลองจาก The California Institute of the Arts และปริญญาเอกด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาย เขาคือนักปรัชญา-ศิลปินแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นตัวพ่อเจ้าของความเชื่อต่างๆ อันแรงกล้าที่สามารถถ่ายทอดออกมาผ่านเสียงดนตรี ทุกโชว์ของ Maus คือการแสดงออกผ่านร่างกายที่สุดขั้ว ที่ดูเผินๆ อาจเรียบง่าย แต่ทรงพลัง เขามักจะรับมือกับความไม่สมบูรณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในแต่ละโชว์ ซึ่งเขามองว่านี่คือสัญลักษณ์ของความเป็นอิสระในแง่ของศิลปะ ทำให้เขาได้รับฉายา “ศิลปินป๊อปผู้เป็นนักปรัชญา” ด้วยการผสมผสานความคิดเชิงวิชาการเข้ากับดนตรี lo-fi และ synth-pop ได้อย่างลงตัว
ด้วยความลุ่มลึกด้านปรัชญา และความสุดโต่งในเส้นทางการเป็นศิลปิน ทำให้ผลงานของ Maus มีอิทธิพลครอบคลุมทั้งวัฒนธรรมกระแสหลักและนอกกระแส เขาได้สร้างเส้นทางเฉพาะตัวขึ้นมาโดยใช้ดนตรีเป็นพื้นที่ของการต่อสู้ทางอัตถิภาวนิยมและจิตวิญญาณ ที่เขาบอกว่ามันจะเป็นพื้นที่ที่การประชดประชัน ความเศร้าโศก ความสุข และเรื่องไร้สาระเบาสมอง สามารถอยู่ร่วมกันได้
อิทธิพลของเขาข้ามพรมแดนทั้งแนวเพลงและยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็น Skepta ไอคอนวงการ grime ของอังกฤษที่เคยนำเพลง “I’m Only Human” ไปใช้ในงานของเขา ไปจนถึงศิลปินรุ่นใหม่อย่าง nettspend ผู้กำกับ Josh Safdie นักแสดง Natasha Lyonne และ Wolfgang Tillmans ศิลปินภาพถ่ายชาวเยอรมัน โดยผลงานเก่าของเขาที่ชื่อ “Cop Killer” ยังถูกนำไปประกอบในภาพยนตร์ Friendship ที่จะออกฉายในปีนี้
กับหลายอัลบั้มที่ผ่านมา Maus ได้หล่อหลอมเส้นทางอาชีพศิลปินของตัวเองที่เปิดรับความขบขัน ความเศร้าโศก ความสุข และเรื่องเหนือจินตนาการให้อยู่ร่วมกันได้อย่างแนบเนียน พร้อมฐานแฟนเพลงผู้ภักดีในระดับคัลต์ สำหรับ Later Than You Think เขาไม่ได้แค่กลับมา แต่คือการตั้งคำถาม คำสารภาพ และการเปลี่ยนผ่านทางศิลปะอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่งานที่นิยามตัวเขาในฐานะศิลปิน หากแต่เป็นงานศิลปะที่กล้าจะเชื่อใน “ความหมาย” “ความงาม” และ “ความเป็นไปได้ของการหลุดพ้น” อย่างบริสุทธิ์ใจ
พรีเซฟอัลบั้ม Later Than You Think จาก John Maus ได้ที่นี่
photo credit Paul Maffi