คุณอาจจะเคยเห็นผลงานซีรีส์ ภาพยนตร์ หนังสือ หรือแม้กระทั่งการ์ตูน ที่จู่ๆ ตัวละครก็บอกออกมาอย่างง่ายดายว่า “ฉันเป็น เควียร์/เกย์/เลสเบี้ยน/ไบ และอื่นๆ ฯลฯ” แล้วรู้สึกว่า นี่มันเหมือนกับชีวิตของฉันเลยนี่! พวกเราขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยที่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนของคุณให้โลกได้รับรู้ เพราะการ Coming Out นั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวสุดๆ แล้วแต่ละคนก็ใช้เวลาทำความเข้าใจกับกระบวนการดังกล่าวต่างกัน วันนี้ The Noize Team อยากจะชวนทุกคนไปทำความรู้จักและเข้าใจถึงการตัดสินใจเปิดเผยตัวตน หรือว่าการ Come Out กัน ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลย!
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การ Come Out คืออะไร?
การเปิดเผยตัวตน / การคัมเอาท์ / Come out คือ คำที่ใช้อธิบายถึงช่วงเวลาที่บุคคลเลือกที่จะเปิดเผยตัวตนของตัวเองให้ผู้อื่นได้รับรู้ ทั้งในแง่ของอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเอง และ/หรือ รสนิยมทางเพศของตัวเอง ซึ่งการคัมเอาท์นั้น บางคนอาจจะเรียกว่าเป็นการเปิดประตูโลกส่วนตัวของตัวเองให้คนอื่นได้รับรู้เช่นเดียวกัน
บางคนอาจจะมองว่า การคัมเอาท์เป็นเรื่องง่ายดาย เพราะอาจจะรู้สึกว่าคนรอบข้างพร้อมจะยอมรับ เป็นกำลังใจ และคอยประคับประคองเช่นเดิมโดยไม่มีการปฏิบัติตัวที่แตกต่างไปจากก่อนหน้า แต่การคัมเอาท์ก็เป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายๆคนเช่นกัน เพราะว่าการเปิดเผยตัวตน อาจจะทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย หรือเขาไม่สามารถควบคุมสิ่งที่คนรอบข้างคิดกับตัวตนของเขาได้
และที่สำคัญเลยก็คือ การคัมเอาท์ ควรเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่บุคคลที่ต้องการเปิดตัวได้ใช้เวลาตกผลึกกับตัวเอง และเป็นช่วงเวลาที่บุคคลนั้นพร้อมอย่างแท้จริง โดยที่ไม่มีใครไปบังคับให้ทำทั้งทางตรงและทางอ้อม
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเปิดเผยตัวตนแค่เพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น เพราะว่าชาวเควียร์จำนวนมากต่างคัมเอาท์ในหลายๆ บริบทและหลายๆ สถานการณ์ ซึ่งประสบการณ์ของพวกเขาในแต่ละสถานที่ แต่ละช่วงเวลา ก็แตกต่างกันออกไปด้วยนั่นเอง
ดังนั้นแล้ว เราอยากบอกคุณว่า ใช้เวลากับตัวเองได้นานเท่าที่ต้องการ ค้นหาตัวเองให้เต็มที่ และเมื่อไหร่ที่คุณพร้อม การเปิดเผยตัวตนกับคนรอบข้างที่คุณไว้ใจ จะเป็นเรื่องที่ทำให้คุณใจฟูอย่างแน่นอน!
หลายคนอาจจะมองว่าไม่จำเป็นจะต้องคัมเอาท์ก็ได้
ไม่ใช่เรื่องผิดหรือเรื่องแปลกแต่อย่างใด กับการตัดสินใจว่าจะคัมเอาท์หรือไม่คัมเอาท์ สำหรับบางคนอาจจะมองว่า “แค่เราเป็นตัวเอง ก็เพียงพอแล้ว” ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมารู้หรือมายุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัว นั่นไม่ใช่เรื่องผิดเลยสักนิด
แต่สำหรับบางคน การเปิดเผยอัตลักษณ์ของตนอย่างชัดเจน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพื่อให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจถึงตัวตนของเขาได้ดียิ่งขึ้น แน่นอนว่าการเปิดเผยตัวตนอาจเป็นช่วงเวลาที่ให้ความรู้สึกมีพลังหรือช่วยเชื่อมต่อผู้คนกับชุมชนได้ แต่ในความเป็นจริง การที่ต้องระบุอัตลักษณ์ของตนเองเพื่อยืนยันการมีอยู่ อาจให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาระหนักอึ้งได้เช่นกัน บางคนอาจจะยังตัดสินใจไม่คัมเอาท์ ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น
- ยังไม่แน่ใจว่าคำจำกัดความใดที่อธิบายประสบการณ์ทางเพศและเพศสภาพของตนเองได้ดีที่สุด
- กังวลว่าจะเผชิญกับการเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน ที่อยู่อาศัย หรือการดูแลสุขภาพ
- อาศัยอยู่กับคนที่มีทัศนคติแบบเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกัน (homophobic) หรือเกลียดกลัวคนข้ามเพศ (transphobic)
- กลัวที่จะถูกปฏิเสธ หรือถูกกีดกันให้โดดเดี่ยวทางสังคม
วิธีการคัมเอาท์ ต้องทำยังไงบ้าง
การคัมเอาท์ไม่มีวิธีที่ผิดถูก หรือวิธีที่ตายตัวเลยล่ะ เพราะแต่ละคนมีความรู้สึกและความพร้อมที่แตกต่างกันออกไป การตัดสินใจเปิดเผยตัวตนกับคนที่คุณรักมากที่สุดนับเป็นเรื่องน่ากลัว (แต่ไม่ใช่กับทุกคน หากคนรอบข้างของคุณแสดงตัวว่าซัพพอร์ตมาโดยตลอด) ดังนั้น คุณสามารถเลือกวิธีที่รู้สึกสบายใจที่สุดของตัวเองได้เลย
วิธีที่จะเปิดเผยตัวตนมีหลายรูปแบบ ทั้งคุยจริงจังต่อหน้า ผ่านโทรศัพท์ ส่งข้อความ เขียนจดหมาย ฯลฯ ขอเพียงแค่อย่าไปคาดหวังหรือไปกำหนดว่าจะมีแค่เพียงรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งนะ เราทุกคนสามารถใช้วิธีที่เหมาะสมในแบบของตัวเองได้เลย
1. ต้องวางแผนล่วงหน้าไหม
การวางแผนล่วงหน้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นขนาดนั้น แต่อาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณทำความเข้าใจได้ว่า คุณต้องการที่จะพูดอะไรออกไปบ้าง ให้ลองเขียนสิ่งที่อยากเตรียมตัว สิ่งที่อยากพูด และลองฝึกซ้อมกับคนรอบข้างที่คอยสนับสนุนก็ได้ เช่น
- อยากจะบอกด้วยวิธีไหนกันนะ
- ต้องพูดอะไรบ้าง
- อยากให้เขาพูดอะไรบ้าง
- จะเตรียมตัวยังไงก่อนที่จะเปิดเผยตัวตน
นอกจากนี้แล้ว การคำนึงถึงปฏิกิริยาต่างๆ ทั้งด้านดีและไม่ดี อาจจะช่วยให้คุณคาดการณ์ได้ดีขึ้น เช่น
- อาจได้รับคำตอบที่ดีอะไรบ้าง
- อาจได้รับคำตอบที่ไม่ดีอะไรบ้าง
- ความคาดหวังต่อปฏิกิริยาของพวกเขา โดยอิงจากสิ่งที่ตัวเองรู้เกี่ยวกับคนที่จะแบ่งปันเรื่องนี้ด้วย
- อยากให้พวกเขามีปฏิกิริยาอย่างไร
2. ลองหยั่งเชิงก่อนดีกว่าไหม
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณเข้าใจคนรอบข้างมากขึ้น เกี่ยวกับความรู้สึกต่อ LGBTQIAN+ คือการลองหยั่งเชิง เพื่อดูปฏิกิริยาของพวกเขา และคาดเดาปฏิกิริยาหลังจากที่คุณคัมเอาท์ แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสมอไป
- ลองถามความเห็นเกี่ยวกับคนดังที่เป็นเควียร์
- ลองถามความเห็นเกี่ยวกับสมรสเท่าเทียม
- พยายามตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด เช่น
- ดูถูกคนที่เป็น LGBTQIAN+ หรือไม่
- มีภาพจำเหมารวมเกี่ยวกับ LGBTQIAN+ หรือไม่
- สังเกตการจัดการกับเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์ จะช่วยให้คุณคาดเดาปฏิกิริยาที่ควรเตรียมรับมือได้
3. ปัจจัยทางสังคมในการเปิดเผยตัวตน
จังหวะเวลา ไม่มีช่วงเวลาใดที่สมบูรณ์แบบสำหรับการคัมเอาท์ และช่วงเวลาที่ดีที่สุด อาจจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการบอกใคร บางครั้งอาจจะต้องเวลาให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลาย เปิดใจ และพร้อมที่จะรับฟัง แต่บางครั้ง อาจจะต้องเปิดเผยตัวตนในเวลาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็เป็นได้ แต่ที่สำคัญเลยก็คือ ต้องเป็นการคัมเอาท์ในช่วงเวลาที่คุณรู้สึกว่ามันเหมาะสม และไม่ได้ถูกกดดันจากคนรอบข้างที่รู้ตัวตนของคุณอยู่แล้ว
สถานที่และสภาพแวดล้อม เช่นเดียวกับจังหวะเวลา ไม่มีสถานที่ใดที่สมบูรณ์แบบสำหรับการคัมเอาท์
โรงเรียน/มหาวิทยาลัย สำหรับบางคน โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย อาจจะเป็นสถานที่และช่วงเวลาที่ดีสำหรับพวกเขา แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับอีกหลายคนได้เช่นกัน อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพจิตของตัวเองทุกครั้งด้วย
4. ความสัมพันธ์ที่ดี
การสำรวจอัตลักษณ์ ตัวตน ไปจนถึงการตัดสินใจ come out อาจจะอยู่ในช่วงเวลาที่คุณออกเดท หรือกำลังอยู่ในความสัมพันธ์กับใครบางคนได้เช้นกัน ซึ่งอาจจะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและวิตกกังวลเล็กน้อย แต่ในกระบวนการการเปิดเผยตัวเองนั้น จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจถึงข้อแตกต่างระหว่าง ความสัมพันธ์ที่ดี (Healthy Relationship) กับ ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ (Unhealthy Relationship) ระหว่างเรากับคนรักด้วย
- ความสัมพันธ์ที่ดี (Healthy Relationship) มักจะมาพร้อมกับความวางใจ ซื่อสัตย์ การสื่อสารที่เปิดกว้าง การเคารพซึ่งกันและกัน และที่สำคัญที่สุดคือความรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คุณยังไม่ได้เปิดตัวก็ตาม
- ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ (Unhealthy Relationship) อาจจะมาในรูปแบบของการควบคุม ทั้งการแสดงออกทายกาย ทางอารมณ์ และ/หรือทางเพศ รวมไปถึง การบีบบังคับ การใช้กำลัง ไม่ได้สร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยและให้ความเคารพแก่ทุกฝ่าย ซึ่งรวมไปถึงการบีบให้คุณต้องเปิดเผยตัวตนของตัวเองในช่วงเวลาที่คุณยังไม่พร้อม
- การยินยอมพร้อมใจ (Consent) ในทุกๆ กิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมในเชิงโรแมนติก จะต้องมาจากความเต็มใจและกระตือรือร้นจากทุกฝ่าย คุณมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ หรือหยุดในเหตุการณ์นั้นๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด หรือช่วงเวลาใดก็ตาม

การคัมเอาท์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว!?
ถูกต้องแล้วล่ะ! การเปิดเผยตัวตนไม่ใช่สิ่งที่ทำแค่เพียงครั้งเดียวในชีวิตนะ แต่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะเกิดขึ้นตลอดชีวิตของเควียร์เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น การมีเพื่อนใหม่ เริ่มงานใหม่ หรือมีเพื่อนบ้านใหม่ๆ เป็นต้น
และเราขอย้ำเสมอว่า การเปิดเผยตัวตนอาจจะไม่ได้ง่ายขึ้นจากการฝึกฝน แต่เมื่อคุณมีความพร้อมมากขึ้นในการตอบคำถามจากคนอื่นๆ หรือว่าได้พบเจอกับคนใหม่ๆ ที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ความเห็นเหล่านั้นก็อาจจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคุณน้อยลงด้วยนะ
ถ้าต้องคัมเอาท์อยู่ตลอดๆ แล้วทำไมคนถึงเลือกเปิดเผยตัวตนกันล่ะ?
เนื่องจากสังคมในปัจจุบัน มักชอบคิดกันไปเองว่าทุกคนเป็นคนรักเพศตรงข้าม หรือเป็นสเตรท แล้วก็มีเพศสภาพตรงกับเพศกำเนิด (cisgender) จนกว่าจะมีการบอกเป็นอย่างอื่น นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนคาดเดาเกี่ยวกับตัวตนของคนอื่นอยู่ตลอด การที่ต้องอยู่ในกลุ่มคนแบบนี้ ทั้งที่คุณรู้ว่าตัวเองเป็นเควียร์ อาจจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังซ่อนบางส่วนเอาไว้ บางครั้งอาจจะรู้สึกเหมือนกำลังโกหกอยู่ด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า เควียร์หลายๆ คนตัดสินใจที่จะเปิดเผยตัวตนกับครอบครัวและเพื่อนๆ รอบข้าง
แล้วเราควรคัมเอาท์เมื่อไหร่กัน?
บางคนอาจจะเปิดเผยตัวตนตั้งแต่ช่วงที่เขากำลังตั้งคำถามหรือสำรวจตัวตนของตัวเองอยู่ก็ได้ บางคนอาจจะคัมเอาท์ตั้งแต่ยังเด็ก บางคนอาจจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะรู้ว่าตัวเองเป็นเควียร์ หรือบางคนไม่ได้มีความคิดเลยว่าจะต้องเปิดเผยตัวตนของตัวเอง เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวเลยว่าคุณจะต้องคัมเอาท์เมื่อไหร่กันแน่ แค่ถึงเวลาที่คุณพร้อม ก็เพียงพอแล้วที่จะเปิดเผยตัวตนของตัวเอง
อยากให้แฟนบอกที่บ้านว่าคบกัน แต่แฟนยังไม่กล้าคัมเอาท์เลย
สำหรับคู่รักในความสัมพันธ์ที่คนหนึ่งยังไม่กล้า หรือยังไม่พร้อมที่จะคัมเอาท์ แต่อีกฝ่ายต้องการให้คัมเอาท์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ไม่ว่าจะช่วงวัยไหน อาจสร้างความตึงเครียด และทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันได้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ การเปิดเผยตัวตนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และต้องเคารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย แม้ว่าเขายังไม่สบายใจหรือไม่พร้อมที่จะเปิดเผยตัวตนของตัวเอง แทนที่จะมองว่าเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขด้วยการเร่งให้เขาเปิดเผยตัวตนของตัวเอง
หลายครั้งที่การตัดสินใจยังไม่เปิดเผยตัวตน อาจจะมาพร้อมกับความกลัว ความกังวล ทั้งความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ การถูกตัดสิน และหากดึงดันไปกว่านั้น ก็อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่ พังลงมาได้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ การรับรู้และยอมรับความกังวลเหล่านี้ จะช่วยสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับความสัมพันธ์ของคุณได้
การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ไม่ตัดสิน เห็นใจ อดทน และเคารพจากคู่รักที่ให้การสนับสนุน จะทำให้อีกฝ่ายที่ยังไม่กล้าคัมเอาท์ รู้สึกมั่นคง และพร้อมที่จะแสดงออกถึงตัวตนของตัวเองตามจังหวะและช่วงเวลาที่เขาต้องการ นอกจากนี้แล้วยังต้องสื่อสารอย่างจริงใจ ทั้งการตั้งใจฟังโดยไม่ขัดจังหวะ การไม่ชวนทะเลาะ และส่งเสริมการแสดงออกถึงตัวตนในช่วงเวลาที่เขาพร้อมก็จะช่วยให้การทำความเข้าใจและกล้าที่จะเปิดเผยตัวตน เป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างมาก
สิ่งสำคัญคือทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับว่าสถานะ “การคัมเอาท์” ที่แตกต่างกันสามารถอยู่ร่วมกันได้ และในขณะที่เคารพจังหวะเวลาของคู่รักที่ยังเก็บซ่อนอัตลักษณ์ การสื่อสารที่เปิดเผยเกี่ยวกับความต้องการและขอบเขตเป็นสิ่งสำคัญ โดยไม่ควรกดดันให้เร่งรัดการคัมเอาท์
แล้วจะทำยังไงให้เขารู้ว่าเราคอยอยู่ข้างๆ เขา
การสนับสนุนคนรักของคุณตลอดกระบวนการทำความเข้าใจและการเปิดเผยตัวตน เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่คุณที่ต้องใช้ชีวิต แต่คู่รักของคุณที่ยังไม่กล้าเปิดเผยตัวตน ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ อีกมากมาย ทั้งความรู้สึก ความกลัว ความกดดัน ไปจนถึงอนาคตที่พวกเขาอาจจะยังมองไม่เห็น หากเขาตัดสินใจคัมเอาท์ออกไปแล้ว
- การเอาใจใส่อยู่เสมอ เพราะการเอาใจใส่ จะช่วยให้คุณเข้าใจประสบการณ์และเส้นทางที่เขาเลือกเดิน
- ความเคารพและให้เกียรติอีกฝ่าย ทั้งอิสระในการตัดสินใจ และทางเลือกของพวกเขา ให้เขาได้เปิดเผยตัวตนตามจังหวะและความต้องการของเขา
- ความอดทน เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าคนรักของคุณต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย อารมณ์ และหลายๆ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยตัวตน
- สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฟังอย่างตั้งใจ ไม่ตัดสิน ยอมรับอารมณ์ของอีกฝ่าย และส่งเสริมการแสดงออกที่เป็นตัวของตัวเอง
- ชื่นชมความกล้าหาญ ไม่ว่าจะเป็นความพยายามในด้านใดๆ ก็ตาม ทั้งการทำความเข้าใจตัวเอง การตัดสินใจ และการเปิดเผยตัวตนกับคนสำคัญของพวกเขา การชื่นชมหรือการเลือกใช้คำพูดที่ส่งเสริมในเชิงบวก จะช่วยย้ำเตือนว่า คุณจะสนับสนุนเขาไม่เปลี่ยนแปลง
สื่อมีผลมากน้อยแค่ไหนในการกำหนดการรับรู้และให้การสนับสนุน
รู้หรือไม่ว่าสื่อมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการทำให้ประสบการณ์ของ LGBTQIAN+ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างทั่วไปในสังคม และช่วยส่งเสริมความเข้าใจในตัวตนของพวกเขาได้มากอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะเรื่องราวของการคัมเอาท์ สื่อสามารถช่วยให้บุคคลสำรวจอัตลักษณ์ของตนเอง ทำความเข้าใจในสิ่งที่พวกเขารู้สึก เปิดภาพการมองเห็นของบุคคลเควียร์ผ่านภาพตัวแทนในสื่อ สร้างแรงบันดาลใจ และช่วยให้เห็นถึงเรื่องราวและสิ่งที่เควียร์ต้องเผชิญมา ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวด ความยากลำบาก และชัยชนะที่พวกเขาได้รับ จากเส้นทางที่คนรุ่นก่อนได้แผ้วถางไว้เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เดินอย่างภาคภูมิใจที่จะเป็นตัวเอง
การนำเสนอเรื่องราวการคัมเอาท์ที่ละเอียดอ่อนและนำเสนอในเชิงบวก ยังช่วยให้ผู้ปกครองและครอบครัว สามารถมองเห็น ทำความเข้าใจ และแสดงความเห็นอกเห็นใจ อาจจะช่วยลดปฏิกิริยาเชิงลบได้ และสำหรับเยาวชนเควียร์ หรือคนที่กำลังค้นหาตัวเอง การได้มองเห็นภาพสะท้อนผ่านสื่อ จะช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวลง สามารถเชื่อมช่องว่าง เสริมการทำความเข้าใจ และทำให้บทสนทนาภายในครอบครัวเป็นเรื่องที่น่ากลัวน้อยลงด้วย
Heartstopper
ในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ของ Nick Nelson นักรักบี้หนุ่มของโรงเรียนชายล้วน กับ Charlie Spring กำลังเบ่งบาน ซีรีส์ Heartstopper เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการค้นหาตัวเองและการทำความเข้าใจตัวตนของเขาว่าเป็น ไบเซ็กชวล และตัดสินใจคัมเอาท์กับแม่ของตัวเอง โดยที่มีชาร์ลีคอยให้กำลังใจเขาอยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าฉากคัมเอาท์ของนิคอาจจะไม่สะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นสำหรับทุกคน แต่เป็นอีกหนึ่งภาพแสดงที่ทำให้เห็นถึงสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่ทุกคนควรจะต้องได้รับ เป็นอีกหนึ่งความหวัง และเป็นตัวอย่างสำหรับผู้ปกครองในการยืนยันและยอมรับตัวตนของลูก ตอบสนองด้วยความเห็นอกเห็นใจ แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
One Day at a Time
ซีรีส์ซิทคอมเรื่อง One Day at a Time เล่าเรื่องราวของ Elena Alvarez ที่เปิดเผยตัวตนว่าเป็นเลสเบี้ยนกับครอบครัวคิวบา-อเมริกัน ที่ทางฝั่งของน้องชายให้การสนับสนุนทันที ด้านคุณยายที่เคร่งศาสนา และในช่วงแรกยังมีปัญหากับคำนี้ กลับยอมรับในตัวตนของหลานสาวอย่างรวดเร็ว และคุณแม่ที่พยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น ผ่านการสอบถามและพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นเลสเบี้ยน
ซีรีส์ One Day at a Time นำเสนอเรื่องราวของ LGBTQIAN+ อย่างหลากหลาย ตั้งแต่ทำความเข้าใจตัวเอง การคัมเอาท์ การใช้ชีวิต สิ่งที่เควียร์ต้องเผชิญ ไปจนถึงวิธีการที่ญาติคนหนึ่งเลือกที่จะเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพื่อให้เห็นถึงเส้นทางของการคัมเอาท์ในแต่ละคนว่าไม่มีวิธีการที่ถูกผิด หรือช่วงเวลาเดียวกัน
Atypical
Casey Gardner น้องสาวของแซม ตัวละครหลักในซีรีส์ Atypical ถูกนำเสนอในฐานะไบเซ็กชวล ในช่วงเวลาที่เคซีย์คบกับแฟนหนุ่ม แล้วก็เริ่มตระหนักและเริ่มมีความรู้สึกกับผู้หญิง นั่นทำให้เขาต้องต่อสู้กับความรู้สึกภายในของตัวเองตามลำพัง จนกระทั่งตัดสินใจเปิดเผยตัวตนว่าเป็นไบเซ็กชวลกับแซม พี่ชายของเธออย่างชัดเจน เธอแสดงความกลัวว่าจะถูกมองต่างไป แต่แซมก็ยอมรับและยืนยันว่าเธอยังคง “เป็นตัวปัญหาเหมือนเดิม”
แม้ว่าจะใช้เวลาถึง 4 ซีซั่นในการค้นหาตัวเอง แต่การนำเสนอเรื่องราวของเคซีย์ อาจจะทำให้เรามองเห็นและเข้าใจได้ว่า การคัมเอาท์ มักเป็นช่วงเวลาที่ซับซ้อนและยาวนาน โดยเฉพาะการที่ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือซัพพอร์ตจากคนรอบข้าง อาจจะทำให้ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อบุคคลนั้นๆ ได้
The Sex Lives of College Girls
เมื่อเด็กวัยรุ่นเข้ามหาวิทยาลัย ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องใหม่และเป็นช่วงเวลาแห่งการทดลอง แม้กระทั่งการสำรวจอัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขา ซีรีส์ The Sex Lives of College Girls นำเสนอการสำรวจอัตลักษณ์ทางเพศในช่วงวัยเรียนมหาวิทยาลัยผ่านตัวละครหลักสองตัว นั่นก็คือ Leighton Murray และ Bela Malhotra จากกลุ่มเพื่อน 4 คน ที่ได้พบกันในห้องพักของหอภายในมหาวิทยาลัย
เรื่องราวการคัมเอาท์ของเลตั้นเป็นช่วงเวลาที่ค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าจะเริ่มต้นจากการที่พยายามทำตัวให้เข้ากับสังคมรักต่างเพศ จนกระทั่งได้พบกับอลิเซีย ที่เป็นเกย์อย่างเปิดเผย แม้ว่าในช่วงแรกที่เริ่มเดทกัน ทุกอย่างจะเริ่มหวานชื่น แต่เมื่อถูกอลิเซียถามถึงการคัมเอาท์ ก็ทำให้เลตั้นรู้สึกกดดันแและไม่ปลอดภัย จนตัดสินใจเลิกรากันไปในที่สุด
หลังจากนั้นเลตั้นใช้เวลาในการทำความเข้าใจตัวเองมากขึ้น กล้าที่จะเปิดตัวกับเพื่อนๆ และกล้าที่จะเปิดตัวกับครอบครัวในช่วงเวลาที่เธอพร้อม นั่นทำให้เธอได้พบกับอลิเซียอีกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจกลับมาคบกันในที่สุด
สำหรับ Bela Malhotra อาจจะดูเป็นเรื่องยากอยู่สักนิด โดยเฉพาะการที่เธออยู่ในครอบครัวเอเชียใต้ และการที่เธอมองทุกอย่างเป็นเรื่องตลก รวมไปถึงคนอื่นๆ ต่างมองว่าเธอเป็นนักแสดงตลกที่เป็นคนตรงเพศอยู่ตลอด จนกระทั่งจูบกับเฮลีย์ เพื่อนใหม่ของเธอ ทำให้เธอกล้าที่จะยอมรับตัวเอง และเปิดเผยตัวตนกับเพื่อน รวมทั้งแม่ของเธอในช่วงเวลาที่มีการแสดงบนเวที
A League Of Their Own
เมื่อผู้ชายต้องไปรบ แล้วคนในชาติไม่มีอะไรจะดูเพื่อความบันเทิง เหล่าสมาคมเบสบอลแห่งสหรัฐอเมริกาจึงเกณฑ์เหล่าผู้หญิงที่เล่นกีฬาได้ มาสร้างความบันเทิงให้กับพวกเขา ซีรีส์ A League Of Their Own นำเสนออัตลักษณ์เควียร์ในบริบทของประวัติศาสตร์และกีฬา จากมุมมองของผู้หญิงที่เล่นเบสบอลในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่ว่าจะเป็นสมาชิก Rockford Peaches อย่าง Carson Shaw, Greta Gill, Jess McCready และ Lupe García หรือมือขว้างลูกจากชุมชนผิวดำ
Carson Shaw ผู้เล่นตำแหน่งแคชเชอร์ของทีม ที่ในตอนแรกแต่งงานกับผู้ชาย กระทั่งการได้เข้ามาอยู่ในทีม Rockford Reaches ทำให้เธอได้เริ่มเดินทางค้นหาตัวเอง แม้ว่าจะต้องต่อสู้กับความรู้สึกภายในอยู่ตลอด จนกระทั่งได้พูดคุยกับ Maxine “Max” Chapman ขณะที่เดินทางไปแข่งในเมืองอื่น และได้พบกับบาร์เกย์ลับ ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจกับชุมชนเควียร์ที่ถูกสร้างขึ้นมา ทำให้เธอกล้าที่จะยอมรับตัวเอง และยืนยันกับสิ่งที่เธอรู้สึก
อีกตัวละครที่น่าสนใจและควรถูกพูดถึงก็คือ Maxine “Max” Chapman นักขว้างลูกผิวดำที่มีพรสวรรค์ ทั้งต้องซ่อนตัวตนของตัวเองจากครอบครัวและคนรอบข้าง ไปจนถึงการต่อสู้กับอุปสรรคทางเชื้อชาติและทางเพศในการเล่นกีฬาเบสบอล ซึ่งช่วงเวลาในการเปิดเผยตัวตนของแม็กซ์ เป็นช่วงเวลาที่เธอต้องต่อสู้กับการมีตัวตนในพื้นที่ของตัวเอง ทั้งในโลกใบนี้ และในกีฬาเบสบอล จนกระทั่งได้พบกับ Bert Hart ลุงของเธอที่เป็นชายข้ามเพศ และได้พบกับนักกีฬาเบสบอลที่ชื่อ เกรซี่ ที่ทำให้เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ
ในเรื่องยังมีส่วนตัวละครเควียร์อื่นๆ อย่างคู่ซี้ Jess McCready และ Lupe García ที่มีอัตลักษณ์บุชเหมือนกัน โดยตัวตนของเจสเป็นเรื่องที่รับรู้กันดีกันในทีม จนไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนแบบดั้งเดิม เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปยังเมืองไหน พวกเขามักจะไปบาร์เกย์ด้วยกัน นี่อาจจะเป็นอีกตัวละครที่นำเสนอถึงการเป็นตัวของตัวเอง และการเปิดเผยตัวตนที่มีอยู่ก่อนแล้วภายในชุมชนเควียร์
Paper Girls
เมื่อเด็กส่งหนังสือพิมพ์กำลังปั่นจักรยานหนีพวกอันธพาล แต่ดันต้องไปเจอกับสิ่งลึกลับ ที่ทำให้พวกเขาเดินทางข้ามเวลาไปยังอนาคต ซีรีส์ Paper Girls สำรวจการค้นพบอัตลักษณ์ในวัยรุ่นผ่านการเดินทางข้ามเวลาและการเผชิญหน้ากับตัวตนในอนาคต
KJ Brandman เด็กอายุ 12 ที่ในซีรีส์พาเธอไปพบกับตัวเองในปี 2000 ที่คบกับแฟนสาวชื่อ ลอเรน จนกระทั่งทำให้เคเจเริ่มทำความเข้าใจและค้นหาตัวตนของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าในฉบับการ์ตูน เคเจจะเปิดเผยว่าเกลียดชังคนรักเพศเดียวกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกป้องกันเพื่อซ่อนอัตลักษณ์ของตัวเอง (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Internalized Homophobia) แต่ในซีรีส์ ผู้สร้างพยายามที่จะลดทอนประเด็นนี้ลง และพยายามนำเสนอให้เห็นชัดในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเคเจกับเพื่อนของเธอมากขึ้น
Legends of Tomorrow
เมื่อเหล่าซูเปอร์ฮีโร่เกรด B แห่งจักรวาล DCCW มารวมตัวกัน ความเควียร์จึงบังเกิด! Legends of Tomorrow ซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของการกอบกู้ช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลง เพื่อไม่ให้โลกปั่นป่วนจนเกินไป และนำเสนอความเควียร์ในโลกซูเปอร์ฮีโร่ไว้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้แล้ว Legends of Tomorrow ยังมีเรื่องราวการ Coming Out ที่หลายๆ คนพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง นั่นคือเรื่องราวของ Esperanza “Spooner” Cruz ในช่วงเวลาที่พูดคุยและเล่นกับ Fck Marry Kill กับ Zari Tarazi ว่าจะเลือกใคร ซึ่งสปูนเนอร์ก็บอกว่าเธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับใครเลยด้วยซ้ำ หลังจากนั้น ซารีก็ได้ถามและอธิบายว่า Asexual คืออะไร และช่วยย้ำว่านี่เป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้เกิดจากการทดลองของมนุษย์ต่างดาวอย่างแน่นอน จนกระทั่งสปูนเนอร์เข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้นในฐานะ Asexual
Will & Harper
Will & Harper เป็นสารคดีที่บอกเล่าเรื่องจริงเกี่ยวกับการคัมเอาท์ของ Harper Steele ซึ่งเป็นนักเขียนและผู้กำกับตลกที่เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกับ Will Ferrell มายาวนานหลายสิบปีในรายการ Saturday Night Live
เรื่องราวการคัมเอาท์ของ Harper ไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่สาธารณะในตอนแรก แต่เริ่มต้นจากการส่งอีเมลถึงเพื่อนและคนรอบข้าง เพื่อเปิดเผยตัวตนว่าเป็นผู้หญิงข้ามเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Will Ferrell หลังจากที่ทั้งคู่ไม่ได้เจอกันนานถึง 10 ปี ช่วงล็อกดาวน์ COVID-19 ซึ่งเป็นช่วงที่เธอใช้เวลาในการทำความเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง และตัดสินใจยอมรับในตัวตนที่แท้จริง อีเมลฉบับนั้นมีความสำคัญมาก เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ และเป็นจุดเริ่มต้นของสารคดีเรื่องนี้
เมื่อ Will Ferrell ได้รับอีเมล เขารู้สึกตกใจ แต่ในทันทีเขาก็ตอบกลับด้วยการให้การสนับสนุนและยอมรับในตัว Harper อย่างเต็มที่ โดยเขาไม่เคยลังเลที่จะยืนเคียงข้างเพื่อนคนนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงเป็นหัวใจสำคัญของสารคดี ที่แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่แข็งแกร่งและไม่ถูกสั่นคลอนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเพศสภาพ
การเดินทางเพื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการกระชับมิตรภาพให้แน่นแฟ้นขึ้นและให้ Will ได้รู้จักกับ “Harper” คนใหม่ ทั้งคู่จึงตัดสินใจออกเดินทางแบบโรดทริปจากนิวยอร์กไปยังแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเปรียบเสมือนการเดินทางเพื่อเปิดตัว Harper สู่โลกภายนอกอย่างเป็นทางการ ในระหว่างการเดินทาง ทั้งสองได้พูดคุยถึงเรื่องราวในอดีต ความรู้สึกในปัจจุบัน รวมถึงความท้าทายที่ Harper ต้องเผชิญในฐานะหญิงข้ามเพศ
เรื่องราวของ Harper ในสารคดีนี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในการยอมรับและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับคนรอบข้าง อีกทั้งยังสะท้อนถึงพลังของมิตรภาพที่แท้จริงที่พร้อมจะโอบรับและสนับสนุนเพื่อนในทุกๆ การเปลี่ยนแปลงของชีวิต
นอกจากนี้แล้ว ยังมีผลงานอีกจำนวนมากที่เล่าถึงเรื่องราวการ Coming Out ที่โอบรับทุกคนอย่างจริงใจ นอกเหนือจากที่พวกเราได้คัดเลือกมาข้างต้น
และที่สำคัญเลยก็คือ สื่อต้องนำเสนอและพยายามทำให้คนเข้าใจเกี่ยวกับการคัมเอาท์ให้มากขึ้น เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนมุมมอง และหยุดโรแมนติไซส์การกดดันหรือบังคับให้คู่รักต้องเปิดเผยตัวตนกับคนรอบตัวโดยที่ไม่พร้อม
สำหรับใครที่กำลังสงสัยกับตัวเองอยู่ พวกเราขอเป็นกำลังใจให้กับคุณ และขอให้คุณได้พบกับช่วงเวลาที่เหมาะสม ได้เจอกับคนที่เข้าใจตัวตนของคุณ เข้าใจในทุกๆ ข้อจำกัด เพื่อรอวันที่คุณจะโบยบินเป็นตัวของตัวเองอย่างงดงาม
ฟังพอดแคสต์ Sapphicity EP.4 ทำตัวยังไงดีเวลามีคนมา come out!? ได้เลยที่
- Youtube: https://youtu.be/n4aKXYJmcYI
- Spotify: https://spoti.fi/3HsU0J0
- Apple Podcasts: https://apple.co/3plpURu
Resources:
- https://www.thetrevorproject.org/resources/guide/the-coming-out-handbook/
- https://military.ourrelationship.com/how-to-support-your-partner-coming-out-as-lgbtq/
- https://www.healthline.com/health/relationships/lgbt-dating-coming-out#talking-about-it
- https://www.stonewall.org.uk/young-futures/lgbtq-support/coming-out
- https://www.theproudtrust.org/trusted-adults/coming-out/what-why-when/
- https://uploads-ssl.webflow.com/5888a640d61795123f8192db/5ef9d5ba8647a647a723511a_Allsorts%20of%20Coming%20Out%20Final-compressed.pdf
- https://lgbtq.yale.edu/coming-out

