นักร้อง-นักแต่งเพลงสาวมากความสามารถ Gatlin ผู้ที่สร้างชื่อเสียงและกวาดยอดสตรีมมิ่งไปแล้วกว่า 150 ล้านครั้งจากซิงเกิลและ EP ที่เธอปล่อยออกมาเอง ได้กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับการเซ็นสัญญาเข้าสู่บ้านหลังใหม่ Dualtone Records (ค่ายเดียวกับ flipturn และ Jack Van Cleaf) และประเดิมด้วยซิงเกิลเปิดตัวที่น่าจับตาอย่าง “If She Was A Boy” บทเพลงอินดี้-ป๊อปที่เต็มไปด้วยเสียงซินธ์และท่อนฮุคที่ไพเราะ ถือเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิตการทำงานเพลงของเธอ
“If She Was A Boy” ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพลงป๊อปติดหูเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเพลงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งและจริงใจ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากประโยคหนึ่งที่เธอค้นพบโดยบังเอิญในไดอารี่เก่าสมัยที่เธอกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดเผยตัวตนว่าเป็นเควียร์ และเริ่มมีความรักครั้งแรกกับผู้หญิง ประโยคที่ว่าคือ “if she was a boy I’d be in love” (ถ้าเธอเป็นผู้ชาย ฉันคงตกหลุมรัก) เป็นถ้อยคำที่สะท้อนถึงความรู้สึกที่ต้องเก็บซ่อนความรักและความปรารถนาในวัยเยาว์ไว้ ภายใต้แรงกดดันจากสังคมและสภาพแวดล้อมที่เคร่งศาสนาและอนุรักษ์นิยมซึ่งเธอเติบโตมาในรัฐฟลอริดา
มิวสิกวิดีโอและตัวเพลงนั้นถูกนำเสนอออกมาอย่างอ่อนโยน แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดและลึกซึ้ง การยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นแม้จะอยู่ท่ามกลางฉากหลังของชุมชนที่เต็มไปด้วยความเชื่อและประเพณีแบบเดิมๆ ซึ่งเธอได้ถ่ายทอดความขัดแย้งภายในใจออกมาเป็นประโยคที่บาดลึกว่า “If I was born another time, another state / Would I be torn between someone you love / and someone you tolerate” (ถ้าฉันเกิดมาในอีกยุค อีกรัฐ / ฉันจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ระหว่างคนที่คุณรัก / กับคนที่คุณทนได้หรือไม่)
Gatlin ได้เปิดเผยถึงที่มาของเพลงนี้ว่ามันเกิดขึ้นจากความบังเอิญสุดๆ “ฉันทำสมุดบันทึกเล่มปัจจุบันหาย และมีเพียงเล่มเดียวที่มีหน้าว่างเหลืออยู่คือไดอารี่เมื่อหลายปีก่อน และในขณะที่ฉันกำลังพลิกดูหน้าเก่าๆ ฉันก็เจอสิ่งที่ฉันเขียนเกี่ยวกับรักครั้งแรกที่ฉันมีให้กับผู้หญิง” เธอกล่าวถึงแรงบันดาลใจที่จุดประกายให้เกิดเพลงนี้ขึ้นมา และเสริมว่า “ฉันต้องการให้เพลงนี้เป็นซิงเกิลแรก เพราะมันมีความไร้เดียงสาและความเบาสบายอยู่ในนั้น ในขณะเดียวกันก็ยังมีความเศร้าที่โคตรๆ เลย” สำหรับเธอแล้ว เพลงนี้ให้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดกับความเป็น Gatlin ในยุคก่อนหน้า “มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสะพานเล็กๆ ที่ดีงามในการนำพาเข้าสู่ยุคใหม่ของดนตรี”
นอกจากเนื้อหาที่เข้มข้นแล้ว กระบวนการผลิตเพลง “If She Was A Boy” ยังมีความพิเศษ เพราะ Gatlin ได้ร่วมงานกับนักแต่งเพลงเควียร์ ที่มากความสามารถอีกสองคน คือ Chloe Kraemer (ผู้ทำงานร่วมกับศิลปินชื่อดังอย่าง Wet Leg, The Japanese House, mxmtoon) และศิลปินชาวสวีเดน-อังกฤษ Amanda Cy ซึ่งการร่วมงานครั้งนี้มีความหมายกับเธอมาก “ฉันไม่บ่อยนักที่จะได้ทำเพลงกับผู้หญิงทั้งหมด” เธอเน้นย้ำถึงสิ่งที่ทำให้กระบวนการนี้พิเศษ
“If She Was A Boy” ยังเป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้มเต็มชุดแรกของ Gatlin ที่มีชื่อว่า “The Eldest Daughter” ถือเป็นการเปิดฉากบทใหม่ของการเล่าเรื่องราวที่เปิดเผย เรียกได้ว่าอัลบั้มนี้เป็นการเดินทางที่หล่อหลอมด้วยการเติบโตและการเยียวยา ที่ตอกย้ำถึงเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ อัลบั้ม “The Eldest Daughter” มี “If She Was A Boy” เป็นหนึ่งในเพลงหลัก ได้รับการยกย่องว่าเป็นการสำรวจที่ลึกซึ้งถึงเรื่องเพศสภาพ อัตลักษณ์ ครอบครัว และความเชื่อ โดยเปลี่ยนจากความหนักอึ้งของการเติบโตในภาคใต้ของสหรัฐฯ ให้กลายเป็นบทเพลงที่กล้าหาญและมั่นใจในตัวเอง