ชวนทำความรู้จัก Lesbian Flag ธงเลสเบี้ยนที่ใช้อยู่ ครอบคลุมจริงหรือเปล่า?

| |

ความรักของเพศเดียวกันโดยเฉพาะหญิงรักหญิง หรือเลสเบี้ยนนั้นมีตัวตนอยู่มานาน และเมื่อพูดถึงสัญลักษณ์ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือธงเลสเบี้ยน ที่ได้รับความนิยมและมีการใช้ทั่วโลก นั่นก็คือธงที่มี สีส้ม-ชมพู นั่นเอง ซึ่งแต่ละสีบนธงนั้นก็มีความหมายในตัวมันเองด้วย แต่กว่าจะมาเป็นธงสีนี้ที่เราคุ้นเคย อยากจะพาทุกคนมาดูวิวัฒนาการและธงในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ก่อนหน้านี้

กว่าจะมาเป็น Lesbian Flag

รู้หรือไม่ว่าธงเลสเบี้ยนที่เราเห็นกันจนชินตานั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่ธงเลสเบี้ยนแบบแรกที่มีการหยิบมาใช้ เพราะกว่าจะมาเป็นธงเลสเบี้ยนในปัจจุบัน ได้มีการปรับใช้ธงหลากหลายรูปแบบเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงชุมชนของกลุ่มคนที่นิยามตัวเองว่าเลสเบี้ยน

The Labrys Lesbian Flag (1999)

Labrys Lesbian Flag
Labrys Lesbian Flag

ธงเลสเบี้ยนธงแรกที่เกิดขึ้น คือธงลาบริส เลสเบี้ยน (Labrys Lesbian Flag) สร้างขึ้นมาในปี 1999 โดย Sean Campbell มีลักษณะเป็นธงสีม่วงที่มีสามเหลี่ยมคว่ำสีดำ และขวานลาบริส (ขวานสองหัว) สีขาว แม้ว่าธงลาบริส เลสเบี้ยนจะออกแบบในปี 1999 แต่ก็เปิดตัวครั้งแรกสู่สาธารณชนบน Palm Spring ฉบับ Gay and Lesbian Times Pride ในปี 2000

พื้นหลังสีม่วงของธงดังกล่าวเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับชุมชนเลสเบี้ยนและแซฟฟิคมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่กวีกรีกโบราณนาม แซฟโฟ ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กผู้หญิงสวมมงกุฎที่สานจากดอกไวโอเล็ต ไปจนถึง Lavender Menace (กลุ่มนักเคลื่อนไหวเลสเบี้ยนในยุค 1970 ที่มีการบุกเข้าสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกา เพื่อรวมพลังและต่อต้านความคิดของ Betty Friedan ที่ว่ากลุ่มเลสเบี้ยนคือตัวการบ่อนทำลายการเคลื่อนไหวของผู้หญิง) ไปจนถึงสีม่วงบนธงอื่นๆ อันเป็นสีหลักสำหรับชุมชน LGBTQIAN+ 

สำหรับสัญลักษณ์ขวานลาบริส แสดงถึงความแข็งแกร่งและเกี่ยวโยงกับแนวคิดสตรีนิยม ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับปกรณัมกรีกอย่างเทพีอาร์เทมิส ซึ่งเป็นเทพีแห่งการล่าสัตว์ รวมถึงอาวุธที่นักรบหญิงแอมะซอนใช้ โดยถูกนำมาใช้ในชุมชนเลสเบี้ยนเมื่อปี 1970 

ในส่วนของสามเหลี่ยมคว่ำนั้นเป็นการทวงคืนสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับการตีตราในค่ายกักกันของนาซีช่วงที่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Holocaust) สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้เพื่อแปะป้ายบุคคลประเภทต่างๆ ได้แก่ สัญลักษณ์สามเหลี่ยมคว่ำสีชมพู เพื่อแทนเกย์ชาย และสัญลักษณ์สามเหลี่ยมคว่ำสีดำ เพื่อแทนถึงเลสเบี้ยน ส่วนชาวยิวเกย์ชาย จะถูกบังคับให้ใช้สามเหลี่ยมสีเหลือง ไม่ใช่สีชมพู ซึ่งเป็นการกดทับชาวยิวอีกระดับหนึ่ง

แต่ในปัจจุบันนี้ ไม่ได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เนื่องจากไม่ต้องการใช้ธงที่ออกแบบโดยผู้ชายในชุมชนเลสเบี้ยน และการหยิบเอาสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซีมาใช้ด้วย 

Lipstick Lesbian Flag หรือ Pink Lesbian Pride Flag (2010)

Lipstick Lesbian Flag
Lipstick Lesbian Flag

ธงลิปสติก เลสเบี้ยน (Lipstick Lesbian Flag) ถูกสร้างขึ้นโดย Natalie McCray บนบล็อกชื่อ “This Lesbian Life” เมื่อปี 2010 สีของธงมีทั้งหมด 6 เฉดสี ตั้งแต่สีชมพูไปจนถึงสีแดง มีสีขาวคาดตรงกลาง และมีรูปรอยจูบที่มุมซ้ายของธงด้วย แต่ธงแบบที่ไม่มีรอยจูบนั้นนำมาใช้บ่อยกว่าในยุคนั้น (หรือที่เรียกว่า Pink Lesbian Pride Flag) 

สำหรับที่มาของคำว่า ลิปสติก เลสเบี้ยน หมายความถึง ผู้หญิงที่นิยามตัวเองว่าเป็นเลสเบี้ยนที่แต่งหน้า สวมเดรสแบบผู้หญิง และมีลักษณะเฟมินีนสูง โดยสามารถย้อนกลับไปถึงคำที่ใช้ในอุตสาหกรรมสื่อลามกยุค 1980 ที่มีการขายภาพอนาจารของผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงให้กับผู้ชายรักต่างเพศ (heterosexual men) ที่มีความคลั่งไคล้ (fetish) ในอัตลักษณ์เลสเบี้ยน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการลดทอนตัวตนของเลสเบี้ยนให้เป็นเพียงวัตถุทางเพศ (sex object) 

หนึ่งในปัญหาของธงลิปสติก เลสเบี้ยน คือการที่ธงสื่อถึงแค่กลุ่มเลสเบี้ยนบางกลุ่มโดยเฉพาะเจาะจง อย่าง femme lesbian หรือ femme for femme lesbian เท่านั้น ทำให้กลุ่มคนที่นิยามว่าเป็น บุช (butches), ไดค์ (dykes) หรือเลสเบี้ยนอื่นๆ อย่าง ผู้หญิงข้ามเพศไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนผ่านธงที่เป็น femme lesbian แบบนี้ 

ยิ่งไปกว่านั้น ธงดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงการจำกัดตัวตนของเลสเบี้ยนเป็นแค่กลุ่มคนที่มีแรงดึงดูดต่อเพศหญิงเพศเดียวเท่านั้น โดยกีดกันคนอัตลักษณ์อื่นๆ ที่อาจจะดึงดูดมากกว่าแค่เพศหญิง อาทิ ไบเซ็กชวล ออกไป 

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจธงลิปสติก เลสเบี้ยน คือการแสดงความคิดเห็นของผู้ออกแบบ Natalie McCray บนบล็อกส่วนตัวของเธอ (ที่ได้ทำการลบทิ้งไปแล้ว) ซึ่งมีการกล่าวถึงการเหยียดเชื้อชาติ (racist) ในโพสต์นี้ และกล่าวถึง bisexual และ butches อย่างไม่เหมาะสม 

นอกจากนี้ ธงลิปสติก เลสเบี้ยนยังถูกกล่าวหาว่าคัดลอกผลงานการออกแบบมาจากธง คูการ์ ไพรด์ (Cougar Pride Flag) ที่ออกแบบโดย Fausto Femos แดร็กควีนที่นิยามตัวเองว่าเป็นเกย์ ที่เผยแพร่ลงโลกออนไลน์เป็นครั้งแรกในปี 2008 หรือก่อนการมาถึงของธงลิปสติกเลสเบี้ยนเป็นระยะเวลา 2 ปี

Sunset Lesbian Pride Flag หรือ Orange-Pink Lesbian Flag (2018)

Sunset Lesbian Pride Flag
Sunset Lesbian Pride Flag

ธงซันเซ็ท เลสเบี้ยน ไพรด์ (Sunset Lesbian Pride Flag) ออกแบบโดย Emily Gwen นอนไบนารี่เลสเบี้ยนมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายในปี 2018 โดยมีแถบสีทั้งหมด 7 สีด้วยกัน เรียงจากส้มไปยังชมพู ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบ 7 แถบสี หรือ 5 แถบสีก็ได้เช่นกัน

ความหมายของแต่ละสีที่ใช้ ได้แก่ 

สีส้มเข้ม (Dark orange): gender non-conformity (แสดงออกทางเพศที่ไม่ตรงกับบรรทัดฐานของสังคม)
สีส้มปะการัง (Coral orange): independence (ความเป็นอิสระ)
สีส้มอ่อน (Pale orange): community (ชุมชน)
สีขาวคาด (White stripe): unique relationships to womanhood (ความสัมพันธ์อันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นหญิง)
สีม่วงอมชมพู (Pinkish purple): serenity and peace (ความเงียบสงบและสันติ)
สีม่วงชมพูเข้ม (Darker purple-pink): love and sex (ความรัก และเพศ)
สีม่วงแดงเข้ม (Deep magenta): femininity (ความเป็นหญิง)

ผู้สร้างธงได้อธิบายไว้ว่า ธงนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อโอบรับและสนับสนุนเลสเบี้ยนทุกคนในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีความเฟมินีน มาสคูลีน รวมไปถึงทรานส์ นอนไบนารี่เลสเบี้ยน และเลสเบี้ยนที่ไม่ได้ใช้สรรพนาม she/her ด้วย

ควรใช้ธงเลสเบี้ยนไหนมากกว่ากัน

ธงลาบริส เลสเบี้ยนและธงลิปสติก เลสเบี้ยนนั้น นับว่าเป็นธงที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเลสเบี้ยนที่เป็น TERFs (สตรีนิยมหัวรุนแรงต่อคนข้ามเพศ) แม้ว่าธงลาบริส เลสเบี้ยนจะไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจาก transphobia แต่ก็น่าเสียดายที่มีกลุ่มคนสมาทานแนวคิด TERF หยิบเอาไปใช้ในการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านกลุ่มคนข้ามเพศ 

สำหรับ Natalie McCray ที่เป็นผู้ออกแบบธงลิปสติก เลสเบี้ยนเองก็พูดถึงเกี่ยวกับความเกลียดกลัวคนข้ามเพศ และแสดงความเกลียดชังต่างๆ ออกมา ทำให้อธิบายได้อย่างชัดเจนว่า ธงนี้มีความเกี่ยวข้องและได้รับการยอมรับโดย TERF ด้วยเช่นเดียวกัน

หากถามว่าธงไหนที่เป็นธงทางการของเลสเบี้ยน ก็คงตอบได้ว่า ณ ตอนนี้ ยังไม่มีธงไหนเป็นหลัก แต่สำหรับธงที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันนั้นคือธงซันเซ็ท เลสเบี้ยน ไพร์ดเนื่องจากเป็นธงที่ครอบคลุมอัตลักษณ์เควียร์อื่นๆ ที่แตกต่างหลากหลาย นอกจากนั้น ความเห็นของคนในชุมชนเลสเบี้ยนที่มีต่อธงนี้ก็เป็นไปในเชิงบวก นั่นก็อาจจะเป็นผลดีที่สุดสำหรับการเลือกใช้ธงนี้เพื่อเป็นตัวแทนของอัตลักษณ์เลสเบี้ยนในปัจจุบัน

Sources:

  • https://lesbesocial.com/lesbian-dictionary/lipstick-lesbian-meaning#what-is-a-lipstick-lesbian
  • https://subtlepridemerch.com/blogs/subtle-pride/which-lesbian-flag-is-right
  • https://www.facebook.com/SheQuGroup/posts/pfbid0jp1xgVGaFVFcogNG43PPbTFFEfUzmZWeNnaWqQn8A54Zc3Z32NAkLBqMqfpprSm1l
  • https://www.flagcolorcodes.com/lesbian-pride
  • https://www.horniman.ac.uk/story/a-horniman-lesbian-flag/
  • https://parade.com/living/lesbian-flag
  • https://www.them.us/story/history-of-the-lesbian-pride-flag
  • https://www.thoughtco.com/lavender-menace-feminism-definition-3528970
  • https://www.reddit.com/r/QueerVexillology/comments/ssngyk/history_and_origin_of_gay_and_lesbian_flags/
  • https://www.reddit.com/r/lgbt/comments/17l6770/why_is_the_lipstick_lesbian_flag_plz_tell_me_if/
  • https://www.usatoday.com/story/life/2023/04/28/lesbian-flag-history-colors-meaning/11635247002/
Previous

Tarot: กฎศักดิ์สิทธิ์ของการอ่านไพ่ทาโร่ต์คือห้ามใช้สำรับไพ่ของคนอื่น!

Abang Adik ล่าฝันเมืองเดือด ภาพยนตร์ดราม่าที่พร้อมกะเทาะหัวใจของคุณ ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์

Next